วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การตามหาหญิงสาวในคืนฝนตก

"พี่คิดว่า คนเราอาจไม่ได้มีความรักเพียงครั้งเดียว แต่จะมีคนเดียวเท่านั้นที่เราพร้อมที่จะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เพียงเพื่อได้อยู่กับคน ๆ นั้น"
"พี่กำลังพูดถึง South of the Border, West of the Sun เหรอคะ?"


ส่วนหนึ่งจากบทสนทนากับใครคนหนึ่งซึ่งทุกครั้งที่ผมคุยกับเธอ ผมรู้สึกว่ากำลังเล่นเกมคุยกับตัวเอง แต่เป็นตัวเองที่ผมไม่อาจคาดเดา ไม่อาจจินตนาการถึงความซับซ้อน ความไม่ซับซ้อน ความสมบูรณ์แบบ ความไม่สมบูรณ์แบบของเธอได้ครบถ้วน

บางครั้งความรักก็เป็นเพียงการเริงระบำของจินตนาการ เหมือนทิศใต้ของพรมแดนที่ไม่มีอะไรอยู่ ทั้งที่เราคิดถึงบางสิ่งที่สวยงาม ใหญ่ และอ่อนนุ่ม

มนุษย์ทุกคนมีจุดอ่อนซ่อนอยู่ในส่วนที่เปราะบางที่สุดของหัวใจ ใครหลายคนไม่รู้ เพราะไม่มีเวลามากพอจะค้นหา นั่นเป็นเรื่องดีเพราะทำให้เขาไม่ต้องมาสนใจในรายละเอียดยิบย่อย นั่นทำให้ชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข

แต่สำหรับใครบางคนที่มีผัสสะละเอียดอ่อน สิ่งนี้จะกลับกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่วูบไหวเข้ามาในห้วงคำนึง การถูกโบยตีด้วยจุดอ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ แต่บางคนก็ยอมให้เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาจะได้ค้นหาบางสิ่งซึ่งไม่มีอยู่จริงมาเติมเต็ม

ในระหว่างจำนวนจริงมีค่าอนันต์ซ่อนอยู่ ในมิติของหัวใจเองก็มีมิติความไม่สมบูรณ์ อาจเรียกว่าเป็นมิติเศษส่วน

อะไรที่ทำให้มิตินี้เกิดขึ้น?

อาจเป็นความบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์แบบ หรือตะกอนความทรงจำของบางเหตุการณ์หรือบางคนที่ตกค้างในใจ บางเศษเสี้ยวอาจเลือนหายเมื่อเวลาผันผ่าน แต่จะมีเพียงแก่นแกนของความบกพร่องเท่านั้นที่จะยังคงติดแน่นในใจโดยไม่รู้เหตุผล แล้วในที่สุดมันจะพัฒนามาเป็นมิติเศษส่วนที่ไม่มีวันเต็ม มิติเศษส่วนมักซ่อนอยู่ในจุดที่เปราะบางที่สุดในใจ แต่เราก็จะเผลอลืมมันไปหมดสิ้น จนกว่าวันหนึ่งบางสิ่งบางอย่างในตัวจะตายจากไป เราจึงจะรู้สึกถึงมิติเศษส่วนนั้น

"พี่เจอเธอหรือยังล่ะ"
"อาจจะ"
"แล้วพี่ทำยังไง"
"พี่รอ"
"รออะไร"
"รอบางสิ่งที่ไม่มีจะวันเกิดขึ้น"
"พี่รอนานแค่ไหน"
"รอจนบางสิ่งบางอย่างในใจพี่ตายลง"
"แล้วพี่ทำยังไงต่อ"
"พี่ออกเดินทางไปยังทิศตะวันตก"


จุดอ่อนในส่วนที่เปราะบางที่สุดในหัวใจของใครคนหนึ่งจะถูกเขย่าได้ด้วยวิธีใดบ้าง? มันไม่ต้องการความซับซ้อนใด ๆ เลย เพียงแค่สัมผัสถึงบรรยากาศที่จะทำให้มิติของตัวเองแปรเปลี่ยนไปฉับพลันเท่านั้น

แต่การตระหนักในจุดอ่อนไม่ได้แปลว่าจุดอ่อนนั้นจะจางหายไป มิติเศษส่วนเรียกร้องให้เราแสวงหาบางสิ่งมาเติมเต็มทั้งที่เรารู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่มีอยู่จริง

การหาเศษส่วนมาเติมเศษส่วน ยิ่งทำให้ระดับเศษส่วนซับซ้อนทวีคูณ เว้นแต่การหาเศษส่วนเพียงหนึ่งเดียวที่สอดคล้องกันทั้งเศษและส่วนที่จะทำให้เศษส่วนกลายเป็นจำนวนเต็ม ซึ่งครั้งหนึ่งอาจเคยมีอยู่ แต่มันจากไปในวันที่เราไม่ได้เตรียมพร้อม เราไม่มีวันค้นหาเศษส่วนนั้นพบในสภาพเดิม เพราะทุกอย่างในโลกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่มีใครกดปุ่มหยุดเวลาชีวิตไว้ที่ช่วงอายุหนึ่งได้

ใครบางคนล้มลงบนพื้นแล้วตายลงเงียบ ๆ

"พี่เจออะไรที่นั่นบ้าง"
"ไม่รู้สิ... พี่อาจจะแค่อยากออกเดิน แต่บางทีพี่อาจจะคิดผิดก็ได้"
"พี่อยากจะหาอะไรบางอย่างที่อยู่ฟากฝั่งนั้นไม่ใช่เหรอ"
"พี่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มี ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว"
"แล้วพี่จะกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม"
ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น



วุฒินันท์ ชัยศรี
๑๖/๐๗/๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น