วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

เจ้าฟ้าคนเดินดิน ณ ถิ่นมังกร

หมื่นลี้ใต้หล้าฟ้ากว้าง
หมื่นล้านเส้นทางทั่วถิ่น
รอยพระบาท "เจ้าฟ้าคนเดินดิน"
ล้วนประทับหมดสิ้น ณ แดนไกล

หมื่นพันพระราชกรณียกิจ
เชื่อมชีวิตเชื่อมสัมพันธ์แผ่นดินใหญ่
น้ำโขงสายธารแห่งสายใย
ยังน้อยกว่าน้ำพระทัยมิตรไมตรี

ความสัมพันธ์ไทย-จีนจึงแน่นหนัก
เชื่อมร้อยด้วยรักดุจน้องพี่
แสงสว่างทั่วหล้าพระบารมี
คือหนึ่งแสงสุรีย์สุขสำราญ

มิตรภาพจีน-ไทยใช่เพียงพูด
ล้วนพิสูจน์ด้วยย่างก้าว ธ ก้าวผ่าน
ทุกหยาดพระเสโทที่ทรงงาน
คือสายธารอันยิ่งใหญ่เชื่อมไทย-จีน

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

Weathering With You : แม่สาวปักตะไคร้/เราต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว

(บันทึกความรู้สึกหลังชมภาพยนตร์ ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในภาพยนตร์)

มึน ๆ อึน ๆ หลังออกจากโรงนิดหน่อย แต่น้อยกว่าสมัยดู Your Name ซึ่งอึนกว่านี้แต่ยังว้าว! กับฉากจบ ขณะที่เรื่องนี้เราก็ยิ้มกับฉากจบ แต่เป็นยิ้มแบบ ฮื่อ นั่นสินะ เราต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วใช่ไหม

มาโคโตะ ชินไค ยังคงเก่งเรื่องการนำแนวคิดชินโตมาขยายและผูกกับพล็อตความรักของหนุ่มสาว เรื่องนี้ไม่ได้ขยี้เส้นเรื่องหลักมากเท่า Your Name และพยายามเปิดทางให้ซับพล็อตของตัวประกอบมีบทบาทมากขึ้น แต่ที่สุดแล้ว พอเข้าสู่องก์สุดท้ายในเรื่องซึ่งกลับมาโฟกัสที่เส้นเรื่องหลัก ตัวละครบางตัวก็กลับจมหายไปกับสายน้ำซะเฉย ๆ พอมาถึงฉากจบ ตัวละครอื่นที่ปูเรื่องมาก็ทำได้แค่กลับมาตบหลังตบบ่าตัวเอก เฮ้ย เอาน่ะ โอเคแล้วน่ะ ซะอย่างนั้น ทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่ชินไคถนัดจริง ๆ ก็คือการเล่าลงลึกในขอบเขตความสัมพันธ์ของสองเรา และการเติบโตของตัวละครหลักมากกว่า

ส่วนที่อยากชมคืองานภาพที่สวยมาก และที่ยิ่งกว่านั้นคือเพลงประกอบในเรื่องไพเราะมาก มากแบบอุทานในใจตลอดเวลาว่า ไอ้เชี่ย เพร๊าาาาะะโว้ยยยย จนต้องมานั่งหาเพลงจากหนังฟังอยู่นานสองนานไม่ได้กลับหอซะที แต่ความไพเราะของเพลงบางครั้งก็กลับเป็นข้อเสีย เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ฉากใน Your Name ที่ใช้ 'ความเงียบ' ให้คนดูได้ปล่อยอารมณ์ไปกับเนื้อหาเอง แต่ในเรื่องนี้ บางจังหวะเหมือนพยายามส่งเพลงมาบิ๊ลต์อารมณ์คนดูมากไปหน่อย แต่ช่างแม่งเถอะ ก็เพลงมันเพราะจริง ๆ นี่หว่า 555 แค่คิดว่าเสียค่าตั๋วไปนั่งฟังเพลงยังคุ้มแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ บางคนอาจจะเก็บเกี่ยวเรื่องการข้ามผ่านวัย บางคนอาจจะเก็บเกี่ยวเรื่องความรักอันยิ่งใหญ่ที่ยอมแลกด้วยทุกสิ่ง แต่สำหรับเราเก็บเกี่ยวมาได้แต่ความสิ้นหวัง และจากนี้คือความเศร้าทุกครั้งที่แหงนหน้ามองฝอยฝนอนันต์ เพราะเราเข้าใจแล้วว่า ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้เป็นอภิสิทธิ์ของคนหนุ่มสาวเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

ฝอยฝนอนันต์

(1.)
"ฝอยฝนอนันต์อีกแล้ว..."
ผมจำได้เสมอ คำพูดติดปากของพิมเวลาที่ฝนตกติดต่อกันเกินสองวัน ช่วงเวลานั้นเธอมักทำรอยยิ้มหล่นหาย เหม่อมองนอกหน้าต่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉาบทาด้วยเฉดสีเศร้าหม่น บางครั้งเธอหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนแล้วขีดฆ่าข้อความซ้ำไปมา ราวกับไม่มีถ้อยคำใดจะทดแทนมวลความรู้สึกในขณะนั้นได้ บางคราวผมพยายามจะแกะสลักประติมากรรมใบหน้าสวยโศกนั้นเป็นบทเพลงสักเพลง แต่ไล่นิ้วได้สักพัก เส้นลวดหกสายในมือก็จะออกเสียงเป็นทำนอง Endless Rain ด้วยความเคยชินเสมอ

(2.)
"พวกเราแม่งป่วยว่ะพี่"
อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พิมโพล่งออกมาท่ามกลางสายฝนในวันหนึ่งที่ท้องฟ้าเป็นสีเทา
"หมายความว่าไง"
"พวกนักเขียน กวี ศิลปินห่าเหวอะไรเนี่ยแม่งป่วยเป็นโรคจิตอ่อน ๆ แน่ แค่เห็นฝนตกก็เศร้าจนจะร้องไห้ตามได้"
ผมหัวเราะในลำคอ บรรเลงกีตาร์เป็นทำนองเพลงเศร้าเบาบาง
"เมื่อไรฝนจะหยุดตกนะพี่"
"เห็นพยากรณ์อากาศบอกว่าพายุเข้าวันนี้วันสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้คงได้เห็นแดดบ้างล่ะ"
"ไม่ใช่ หนูหมายถึง...เมื่อไรเรื่องแบบนี้มันจะจบลงเสียที"

(3.)
วันนี้ละอองฝนโปรยปรายแต่เช้ามืด ผมงัวเงียขึ้นมาจากเตียง ไข้หวัดทุเลาลงแล้วเพราะยาแรงที่หมอจ่ายให้เมื่อวาน
"คุณช่วยไปส่งตาหนูทีนะ ฉันมีประชุมเช้า"
ประกาศิตจากคุณภรรยา นอกจากจะยึดรถคันใหม่ไปใช้แล้ว ยังส่งให้ผมกับเจ้าเด็กน้อยต้องมาแข่งกันบิดขี้เกียจในรถคันเก่าท่ามกลางรถหรูนับร้อยที่จอดแน่นิ่งบนถนนหน้าโรงเรียน ผมพยายามหมุนวิทยุหาเพลงฟัง ได้ยินแต่เสียงสัญญาณขาดหาย
"หนูไม่ชอบฝนเลยพ่อ...ฝนตกแล้วต้องนั่งในรถน๊านนาน เมื่อยอะ หนูอยากเจอเพื่อนเร็ว ๆ"
"ฮื่อ พ่อก็ไม่ชอบฝน"
"ทำไมคะ"
"บางครั้งเวลาฝนตกก็ทำให้พ่อเศร้า" ผมยิ้มให้ลูก
"ทำไมเศร้าล่ะค้าา" เจ้าลูกตัวแสบทำเสียงยานคาง "พ่อจะไม่ได้เจอเพื่อนเหรอ"
ยังไม่ทันได้ตอบ รถของผมถึงคิวจอดหน้าประตูโรงเรียน เจ้าเด็กน้อยร้องดีใจ เปิดประตูกระโดดโลดเต้นลงจากรถ แต่ก็ไม่ลืมจะหันมาสวัสดีผมก่อนวิ่งปร๋อเข้าโรงเรียน

(4.)
ฝนหยุดตกแล้ว แสงแดดเข้มขึ้นตามเวลา ผมเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปยังออฟฟิศ วันนี้คงสายตามเคย ลองหมุนวิทยุอีกครั้ง จู่ ๆ เพลง Endless Rain ก็ดังขึ้นมาห่มคลุมความเงียบในรถ
ชั่วขณะหนึ่ง ผมรู้สึกว่าฝอยฝนอนันต์ของใครบางคนยังคงโปรยปรายไม่ขาดสาย