หมื่นลี้ใต้หล้าฟ้ากว้าง
หมื่นล้านเส้นทางทั่วถิ่น
รอยพระบาท "เจ้าฟ้าคนเดินดิน"
ล้วนประทับหมดสิ้น ณ แดนไกล
หมื่นพันพระราชกรณียกิจ
เชื่อมชีวิตเชื่อมสัมพันธ์แผ่นดินใหญ่
น้ำโขงสายธารแห่งสายใย
ยังน้อยกว่าน้ำพระทัยมิตรไมตรี
ความสัมพันธ์ไทย-จีนจึงแน่นหนัก
เชื่อมร้อยด้วยรักดุจน้องพี่
แสงสว่างทั่วหล้าพระบารมี
คือหนึ่งแสงสุรีย์สุขสำราญ
มิตรภาพจีน-ไทยใช่เพียงพูด
ล้วนพิสูจน์ด้วยย่างก้าว ธ ก้าวผ่าน
ทุกหยาดพระเสโทที่ทรงงาน
คือสายธารอันยิ่งใหญ่เชื่อมไทย-จีน
:: พื้นที่รวบรวมงานเขียนเก็บเล็กผสมน้อยเป็นไทม์แมชชีนความรู้สึกของวันวาน ::
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562
Weathering With You : แม่สาวปักตะไคร้/เราต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
(บันทึกความรู้สึกหลังชมภาพ ยนตร์ ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในภา พยนตร์)
มึน ๆ อึน ๆ หลังออกจากโรงนิดหน่อย แต่น้อยกว่าสมัยดู Your Name ซึ่งอึนกว่านี้แต่ยังว้าว! กับฉากจบ ขณะที่เรื่องนี้เราก็ยิ้มกั บฉากจบ แต่เป็นยิ้มแบบ ฮื่อ นั่นสินะ เราต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่กันห มดแล้วใช่ไหม
มาโคโตะ ชินไค ยังคงเก่งเรื่องการนำแนวคิด ชินโตมาขยายและผูกกับพล็อตค วามรักของหนุ่มสาว เรื่องนี้ไม่ได้ขยี้เส้นเรื ่องหลักมากเท่า Your Name และพยายามเปิดทางให้ซับพล็อ ตของตัวประกอบมีบทบาทมากขึ้ น แต่ที่สุดแล้ว พอเข้าสู่องก์สุดท้ายในเรื่ องซึ่งกลับมาโฟกัสที่เส้นเร ื่องหลัก ตัวละครบางตัวก็กลับจมหายไป กับสายน้ำซะเฉย ๆ พอมาถึงฉากจบ ตัวละครอื่นที่ปูเรื่องมาก็ ทำได้แค่กลับมาตบหลังตบบ่าต ัวเอก เฮ้ย เอาน่ะ โอเคแล้วน่ะ ซะอย่างนั้น ทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่ชินไคถนัดจริง ๆ ก็คือการเล่าลงลึกในขอบเขตค วามสัมพันธ์ของสองเรา และการเติบโตของตัวละครหลัก มากกว่า
ส่วนที่อยากชมคืองานภาพที่ส วยมาก และที่ยิ่งกว่านั้นคือเพลงป ระกอบในเรื่องไพเราะมาก มากแบบอุทานในใจตลอดเวลาว่า ไอ้เชี่ย เพร๊าาาาะะโว้ยยยย จนต้องมานั่งหาเพลงจากหนังฟ ังอยู่นานสองนานไม่ได้กลับห อซะที แต่ความไพเราะของเพลงบางครั ้งก็กลับเป็นข้อเสีย เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ฉากใน Your Name ที่ใช้ 'ความเงียบ' ให้คนดูได้ปล่อยอารมณ์ไปกับ เนื้อหาเอง แต่ในเรื่องนี้ บางจังหวะเหมือนพยายามส่งเพ ลงมาบิ๊ลต์อารมณ์คนดูมากไปห น่อย แต่ช่างแม่งเถอะ ก็เพลงมันเพราะจริง ๆ นี่หว่า 555 แค่คิดว่าเสียค่าตั๋วไปนั่ง ฟังเพลงยังคุ้มแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ บางคนอาจจะเก็บเกี่ยวเรื่อง การข้ามผ่านวัย บางคนอาจจะเก็บเกี่ยวเรื่อง ความรักอันยิ่งใหญ่ที่ยอมแล กด้วยทุกสิ่ง แต่สำหรับเราเก็บเกี่ยวมาได ้แต่ความสิ้นหวัง และจากนี้คือความเศร้าทุกคร ั้งที่แหงนหน้ามองฝอยฝนอนัน ต์ เพราะเราเข้าใจแล้วว่า ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ใบนี้เป็นอภิสิทธิ์ของคนหนุ ่มสาวเท่านั้น
มึน ๆ อึน ๆ หลังออกจากโรงนิดหน่อย แต่น้อยกว่าสมัยดู Your Name ซึ่งอึนกว่านี้แต่ยังว้าว! กับฉากจบ ขณะที่เรื่องนี้เราก็ยิ้มกั
มาโคโตะ ชินไค ยังคงเก่งเรื่องการนำแนวคิด
ส่วนที่อยากชมคืองานภาพที่ส
สำหรับเรื่องนี้ บางคนอาจจะเก็บเกี่ยวเรื่อง
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562
ฝอยฝนอนันต์
(1.)
"ฝอยฝนอนันต์อีกแล้ว..."
ผมจำได้เสมอ คำพูดติดปากของพิมเวลาที่ฝนตกติดต่อกันเกินสองวัน ช่วงเวลานั้นเธอมักทำรอยยิ้มหล่นหาย เหม่อมองนอกหน้าต่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉาบทาด้วยเฉดสีเศร้าหม่น บางครั้งเธอหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนแล้วขีดฆ่าข้อความซ้ำไปมา ราวกับไม่มีถ้อยคำใดจะทดแทนมวลความรู้สึกในขณะนั้นได้ บางคราวผมพยายามจะแกะสลักประติมากรรมใบหน้าสวยโศกนั้นเป็นบทเพลงสักเพลง แต่ไล่นิ้วได้สักพัก เส้นลวดหกสายในมือก็จะออกเสียงเป็นทำนอง Endless Rain ด้วยความเคยชินเสมอ
(2.)
"พวกเราแม่งป่วยว่ะพี่"
อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พิมโพล่งออกมาท่ามกลางสายฝนในวันหนึ่งที่ท้องฟ้าเป็นสีเทา
"หมายความว่าไง"
"พวกนักเขียน กวี ศิลปินห่าเหวอะไรเนี่ยแม่งป่วยเป็นโรคจิตอ่อน ๆ แน่ แค่เห็นฝนตกก็เศร้าจนจะร้องไห้ตามได้"
ผมหัวเราะในลำคอ บรรเลงกีตาร์เป็นทำนองเพลงเศร้าเบาบาง
"เมื่อไรฝนจะหยุดตกนะพี่"
"เห็นพยากรณ์อากาศบอกว่าพายุเข้าวันนี้วันสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้คงได้เห็นแดดบ้างล่ะ"
"ไม่ใช่ หนูหมายถึง...เมื่อไรเรื่องแบบนี้มันจะจบลงเสียที"
(3.)
วันนี้ละอองฝนโปรยปรายแต่เช้ามืด ผมงัวเงียขึ้นมาจากเตียง ไข้หวัดทุเลาลงแล้วเพราะยาแรงที่หมอจ่ายให้เมื่อวาน
"คุณช่วยไปส่งตาหนูทีนะ ฉันมีประชุมเช้า"
ประกาศิตจากคุณภรรยา นอกจากจะยึดรถคันใหม่ไปใช้แล้ว ยังส่งให้ผมกับเจ้าเด็กน้อยต้องมาแข่งกันบิดขี้เกียจในรถคันเก่าท่ามกลางรถหรูนับร้อยที่จอดแน่นิ่งบนถนนหน้าโรงเรียน ผมพยายามหมุนวิทยุหาเพลงฟัง ได้ยินแต่เสียงสัญญาณขาดหาย
"หนูไม่ชอบฝนเลยพ่อ...ฝนตกแล้วต้องนั่งในรถน๊านนาน เมื่อยอะ หนูอยากเจอเพื่อนเร็ว ๆ"
"ฮื่อ พ่อก็ไม่ชอบฝน"
"ทำไมคะ"
"บางครั้งเวลาฝนตกก็ทำให้พ่อเศร้า" ผมยิ้มให้ลูก
"ทำไมเศร้าล่ะค้าา" เจ้าลูกตัวแสบทำเสียงยานคาง "พ่อจะไม่ได้เจอเพื่อนเหรอ"
ยังไม่ทันได้ตอบ รถของผมถึงคิวจอดหน้าประตูโรงเรียน เจ้าเด็กน้อยร้องดีใจ เปิดประตูกระโดดโลดเต้นลงจากรถ แต่ก็ไม่ลืมจะหันมาสวัสดีผมก่อนวิ่งปร๋อเข้าโรงเรียน
(4.)
ฝนหยุดตกแล้ว แสงแดดเข้มขึ้นตามเวลา ผมเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปยังออฟฟิศ วันนี้คงสายตามเคย ลองหมุนวิทยุอีกครั้ง จู่ ๆ เพลง Endless Rain ก็ดังขึ้นมาห่มคลุมความเงียบในรถ
ชั่วขณะหนึ่ง ผมรู้สึกว่าฝอยฝนอนันต์ของใครบางคนยังคงโปรยปรายไม่ขาดสาย
"ฝอยฝนอนันต์อีกแล้ว..."
ผมจำได้เสมอ คำพูดติดปากของพิมเวลาที่ฝนตกติดต่อกันเกินสองวัน ช่วงเวลานั้นเธอมักทำรอยยิ้มหล่นหาย เหม่อมองนอกหน้าต่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉาบทาด้วยเฉดสีเศร้าหม่น บางครั้งเธอหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนแล้วขีดฆ่าข้อความซ้ำไปมา ราวกับไม่มีถ้อยคำใดจะทดแทนมวลความรู้สึกในขณะนั้นได้ บางคราวผมพยายามจะแกะสลักประติมากรรมใบหน้าสวยโศกนั้นเป็นบทเพลงสักเพลง แต่ไล่นิ้วได้สักพัก เส้นลวดหกสายในมือก็จะออกเสียงเป็นทำนอง Endless Rain ด้วยความเคยชินเสมอ
(2.)
"พวกเราแม่งป่วยว่ะพี่"
อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พิมโพล่งออกมาท่ามกลางสายฝนในวันหนึ่งที่ท้องฟ้าเป็นสีเทา
"หมายความว่าไง"
"พวกนักเขียน กวี ศิลปินห่าเหวอะไรเนี่ยแม่งป่วยเป็นโรคจิตอ่อน ๆ แน่ แค่เห็นฝนตกก็เศร้าจนจะร้องไห้ตามได้"
ผมหัวเราะในลำคอ บรรเลงกีตาร์เป็นทำนองเพลงเศร้าเบาบาง
"เมื่อไรฝนจะหยุดตกนะพี่"
"เห็นพยากรณ์อากาศบอกว่าพายุเข้าวันนี้วันสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้คงได้เห็นแดดบ้างล่ะ"
"ไม่ใช่ หนูหมายถึง...เมื่อไรเรื่องแบบนี้มันจะจบลงเสียที"
(3.)
วันนี้ละอองฝนโปรยปรายแต่เช้ามืด ผมงัวเงียขึ้นมาจากเตียง ไข้หวัดทุเลาลงแล้วเพราะยาแรงที่หมอจ่ายให้เมื่อวาน
"คุณช่วยไปส่งตาหนูทีนะ ฉันมีประชุมเช้า"
ประกาศิตจากคุณภรรยา นอกจากจะยึดรถคันใหม่ไปใช้แล้ว ยังส่งให้ผมกับเจ้าเด็กน้อยต้องมาแข่งกันบิดขี้เกียจในรถคันเก่าท่ามกลางรถหรูนับร้อยที่จอดแน่นิ่งบนถนนหน้าโรงเรียน ผมพยายามหมุนวิทยุหาเพลงฟัง ได้ยินแต่เสียงสัญญาณขาดหาย
"หนูไม่ชอบฝนเลยพ่อ...ฝนตกแล้วต้องนั่งในรถน๊านนาน เมื่อยอะ หนูอยากเจอเพื่อนเร็ว ๆ"
"ฮื่อ พ่อก็ไม่ชอบฝน"
"ทำไมคะ"
"บางครั้งเวลาฝนตกก็ทำให้พ่อเศร้า" ผมยิ้มให้ลูก
"ทำไมเศร้าล่ะค้าา" เจ้าลูกตัวแสบทำเสียงยานคาง "พ่อจะไม่ได้เจอเพื่อนเหรอ"
ยังไม่ทันได้ตอบ รถของผมถึงคิวจอดหน้าประตูโรงเรียน เจ้าเด็กน้อยร้องดีใจ เปิดประตูกระโดดโลดเต้นลงจากรถ แต่ก็ไม่ลืมจะหันมาสวัสดีผมก่อนวิ่งปร๋อเข้าโรงเรียน
(4.)
ฝนหยุดตกแล้ว แสงแดดเข้มขึ้นตามเวลา ผมเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปยังออฟฟิศ วันนี้คงสายตามเคย ลองหมุนวิทยุอีกครั้ง จู่ ๆ เพลง Endless Rain ก็ดังขึ้นมาห่มคลุมความเงียบในรถ
ชั่วขณะหนึ่ง ผมรู้สึกว่าฝอยฝนอนันต์ของใครบางคนยังคงโปรยปรายไม่ขาดสาย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)