พอดีว่าช่วงนี้ หนังสือรางวัล Young Thai Artist Award 2008 ได้ทยอยพิมพ์ออกมาแล้ว และก็บังเอิ๊ญบังเอิญว่ามีชื่อของผมและหนังสือนามอุโฆษ(เว่อร์ไป) "เด็กชายผู้ไม่เคยเห็นเลนิน" ติดอยู่ในซอกมุมเล็ก ๆ ของหน้ากระดาษหนังสือที่ได้รับรางวัลเหล่านั้น แฟนานุแฟนหนังสือของผมทั้งรุ่นเพื่อนและรุ่นน้อง (ไม่มีหรอก ติ๊ต่างเอาเอง ฮ่า ๆ ๆ) ที่ไม่ทราบเรื่องการประกวดในสองปีก่อนเลยเกิดอาการ "ฟีเว่อร์" และไถ่ถามถึงหนังสือเล่มนี้กันมาไม่ขาดสาย (อันนี้น่ะ ผมเว่อร์เอง ฟีไม่ได้เว่อร์แต่ประการใด อิอิ) ด้วยความที่ขี้เกียจชี้แจงบ่อย ๆ ก็เลยเอาลิ้งค์เก่าที่เคยลงไว้ใน HI5 มาลงไว้ที่นี่อีกรอบครับ
หะหาย หะหาย นี่มันปกหนังสือ... "เด็กชายผู้ไม่เคยเห็นเลนิน"!!!
(ที่ทำเอง กร๊ากกก)
"เด็กชายผู้ไม่เคยเห็นเลนิน"
1 ใน 6 เล่มสุดท้ายรางวัล Young Thai Artist Award 2008
อย่าสนใจเลยกับหนังสือเล่มนี้
เพราะมันเป็นหนังสือที่ไม่มีวันได้ตีพิมพ์ออกมาสู่บรรณพิภพ
นั่นไม่ทำให้ผมเซ็งเท่าไร
ที่ผมเซ็งก็คือ เพื่อนที่พอจะรู้จักการประกวดนี้ถามผมตลอดว่า "เมื่อไหร่จะตีพิมพ์วะ"
พอผมตอบว่า "ไม่ได้ตีพิมพ์"
เพื่อนก็จะถามกลับว่า "อ้าว ปกติเขาจะตีพิมพ์ 6 เล่มที่เข้ารอบไม่ใช่เหรอ"
พร้อมกับสีหน้าในทำนองว่า "มึงโม้ป่าวเนี่ยเรื่องเข้ารอบ 6 คน"
ครั้นจะตอบว่า "เออ กูก็งงเหมือนกัน" ก็กระไรอยู่
ได้แต่จนใจ ไม่รู้จะตอบคำถามยังไง
เรื่องของเรื่องคือมันเข้ารอบ 6 คนจริงแหละ แต่พอถึงรอบตัดสิน กรรมการรอบตัดสิน (ซึ่งเป็นคนละชุดกับรอบคัดเลือก) ก็ดึงออกซะ 4 เล่ม ให้ 1 เล่มได้ยอดเยี่ยม 1 เล่มได้ดีเด่น ส่วนอีก 4 เล่มที่เหลือได้รับรางวัลชมเชย (และจะไม่ได้รับการตีพิมพ์ เพราะอยู่นอกเหนือสัญญาของนานมีบุ้คส์ที่จะตีพิมพ์เฉพาะรางวัลยอดเยี่ยม ดีเด่น และ Jury's Mention) ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การประกวด ทำเอา 4 คนที่โดนดึงออกจากรอบ 6 คนสุดท้าย อึ้ง กิม กี่ ไปตามกัน ผมเองไม่เสียดายรางวัลเท่าไหร่ เสียดายเงินมากกว่า เพราะแทนที่จะได้ 50,000 ดั๊นเหลือแค่ 20,000 ซะนี่!
หลัง ๆ ผมเลยไม่พูดแล้วว่าผมเข้ารอบ 6 คน ขี้เกียจอธิบาย
บางทีมันก็เป็นแค่ความฝันชั่วขณะตด เมื่อกลิ่นจางก็หายไป...
ความเห็นจากกรรมการรอบตัดสิน :
"ผลงานยังไม่ถึงขั้น ไม่สมควรได้รับการตีพิมพ์"
แต่ไหน ๆ ก็บ้าจี้ทำปกหนังสือไว้รอแล้ว เลยเอามาโชว์ซะหน่อย ฮ่า ๆ
ในเล่มประกอบด้วยเรื่องสั้นที่ "ไม่ถึงขั้น" 8 เรื่อง
สะท้อนถึงสัญชาตญาณดิบและความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อกัน
1. เด็กชายผู้ไม่เคยเห็นเลนิน
2. หลง
3. เหยื่อ
4. ยุติธรรม
5. เจ้าพ่อไทร
6. ช้างเผือก
7. เพื่อชาติ
8. ใบไม้ผลิสีเลือด
อย่าแปลกใจหากจะเห็นผลงานไม่ถึงขั้นเหล่านี้ โผล่อยู่ตามหน้านิตยสารบางฉบับ
ผมมิได้ "ลักไก่" แต่อย่างใด
หลังจากชวดรางวัล YTAA 2008 แล้ว เรื่องสั้นชุดนี้ก็แยกร่างไปตามนิตยสารต่าง ๆ
ได้ตีพิมพ์บ้าง ไม่ได้พิมพ์บ้าง
และจะไม่กลับมารวมร่างกันอีกแล้วแน่นอน
ลาก่อน "เด็กชายผู้ไม่เคยเห็นเลนิน"
และพบกันใน YTAA 2010
ผมจะเรียกมันว่า "นัดล้างตา" ครั้งนี้ผมไม่เอาอะไรมากหรอก
ขอแค่รางวัล "ยอดเยี่ยม" และเงินสามแสนก็พอ
ว่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! (ขี้โม้จริง ๆ)
:: พื้นที่รวบรวมงานเขียนเก็บเล็กผสมน้อยเป็นไทม์แมชชีนความรู้สึกของวันวาน ::
วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553
กรรณะ...วีรบุรุษผู้พ่ายแพ้?
เมื่อวาน ผมเพิ่งได้ทำ Quiz ใน FaceBook ว่าด้วย "คุณคือใครในมหากาพย์ มหาภารตะ" ผลออกมาว่า ผมคล้าย "กรรณะ" กรี๊ด ๆ ๆ ตัวละครในดวงใจ (คำพูดที่ Quote มาจากเรื่องที่อยู่ซ้ายมือของบล็อกก็เป็นคำพูดของกรรณะครับ) ที่แต่คำบรรยายดูจะไม่ถูกใจจอร์จไปหน่อย แถมรูปยังเอารูปตอนเข็นรถมาอีก แน๊ รูปเท่ ๆ อย่างตอนแผลงศรไม่เอามาเลย (ว่าแล้วก็เอามาเองซะเลย แฮ่ ๆ)
จะด้วยความไม่ถูกใจ หรืออัดอั้นตันใจอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็ได้เขียนเกี่ยวกับตัวละครนี้ไว้ยืดยาวพอสมควร เลยคิดว่าน่าจะเอามาลงไว้ในบล็อกเผื่อเก็บไว้อ่าน หรือเผื่อว่าหลายคนที่ได้อ่าน อาจจะเข้าใจตัวละครนี้มากขึ้น และเข้าใจว่า ทำไมผมถึงชอบ... ฝ่ายร้าย ไม่สิ พระรอง ก็ไม่อีกแหละ เอาเหอะ จะเป็นอะไรก็คือ "กรรณะ" ก็แล้วกัน
กรรณะ เป็นตัวละครผมคิดว่าที่น่าเห็นใจที่สุดในเรื่องมหาภารตะ ชีวิตของกรรณะถูกกำหนดด้วยชะตากรรมทั้งชีวิต เขาเป็นบุตรของสุริยเทพ ควรจะได้เป็นพี่ชายคนโตของฝ่ายปาณฑพ (ฝ่ายตัวเอก) แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้เขาเกิดมาผิดเวลา! เหตุเพราะนางกุนตีในวัยสาวเพียงอยากทดลองมนตร์ บุตรพระสุริยเทพจึงต้องกลายไปเป็นคนในวรรณะศูทร เพราะนางกุนตีจำต้องทิ้งเขาไปเนื่องจากเกรงคำครหาที่มีลูกขณะที่ยังไม่ได้แต่งงาน คนเลี้ยงม้าจึงเก็บกรรณะไปเลี้ยง
ตลอดชีวิตของกรรณะ แม้จะปรากฏว่ามีฝีมือและวีรกรรมทัดเทียมกับอรชุน พระเอกของเรื่อง แต่ก็ไม่ได้รับการยกย่อง มีเพียงคำดูถูกว่าเป็นพวกวรรณะต่ำที่อาจหาญจะมาแข่งขันกับคนวรรณกษัตริย์อย่างอรชุน แม้ว่าหลายครั้งจะปรากฏว่า กรรณะเก่งกว่าพวกปาณฑพมากก็ตาม (ในฉบับสันสกฤตไม่สามารถอ่านได้ ในฉบับภาษาอังกฤษไม่แน่ใจว่าอ่านถูก แต่ในฉบับไทยจำได้ว่ากรรณะล้มภีมะได้แต่ไม่ฆ่าเพราะให้สัญญากับนางกุนตีไว้ และยิงธนูแม่นจนเกือบทำให้อรชุนสิ้นชีพไปครั้งหนึ่ง หากไม่ได้ฝีมือการขับรถศึกของพระกฤษณะช่วยไว้)
ไมตรีเดียวที่กรรณะได้รับมาจากมือของทุรโยธน์ ดังนั้นอาจพูดไม่ได้เต็มปากว่าถูกทุรโยธน์หลอกใช้ (แม้ว่าเจตนาแรกเริ่มของทุรโยธน์จะเป็นไปในทางหลอกใช้ก็ตาม แต่ในภายหลังทุรโยธน์ก็ปฏิบัติต่อกรรณะเฉกเช่นเพื่อนแท้คนหนึ่ง) เพราะฝ่ายธรรมะเองก็ปฏิเสธกรรณะแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะอรชุนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง กรรณะจะเหลือทางเลือกใดอีกนอกจากรับไมตรีของทุรโยธน์ และทุรโยธน์เองก็ปฏิบัติต่อกรรณะอย่างเพื่อนที่ดีที่สุดจริงๆ ทั้งมอบทรัพย์สมบัติ มอบแคว้นให้ครองเพื่อเป็นการเชิดหน้าชูตาและเปลี่ยนสถานะทางสังคม หรือบางครั้งที่กรรณะไม่เห็นโดยกับแผนลอบกัดพวกปาณฑพของทุรโยธน์ กรรณะก็ปฏิเสธไม่เข้าร่วม และทุรโยธน์ก็ไม่ได้บีบบังคับให้เข้าร่วมหรือบอกเลิกคบกับกรรณะแต่อย่างใด ทั้งสองยังคงมิตรภาพที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนมีผู้กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างอรชุนและกฤษณะเป็นมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ไม่เท่ามิตรภาพของกรรณะและทุรโยธน์
ในนวนิยายเรื่อง "โรงเรียนที่เงียบที่สุดในโลก" นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ของปีที่ผ่านมา ของฟ้า พูลวรลักษณ์ มีตอนหนึ่งที่ตัวละครถกเถียงกันถึงความสำคัญระหว่างสองตัวละครคือ กรรณะ และอรชุน ตัวละครหนึ่งได้แสดงทัศนะว่า การขาดกรรณะไปอาจทำให้เรื่องขาดหายไปสักบรรพสองบรรพ แต่หากขาดอรชุนไป มหาภารตะจะไม่สามารถคงอยู่ได้ เพราะอรชุนเป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง นั่นอาจจะจริง เพราะเรื่องราวดำเนินไปโดยเน้นที่การผจญภัยของฝ่ายปาณฑพ และการสรรเสริญวีรกรรมของอรชุน นักรบผู้เก่งกล้าที่สุดของเรื่อง แต่หากถามผม ผมกลับคิดว่า หากขาดกรรณะไป เรื่องคงจืดชืดเกินกว่าจะดำเนินไปได้อย่างออกรสเช่นนี้
เพราะกรรณะคือตัวละครที่เป็นเสมือนตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาที่ต้องต่อสู้อย่างหนักในจิตใจตนเอง ระหว่างการเลือกธรรมะหรืออธรรม บุญคุณหรือความถูกต้อง ความขัดแย้งนี้อาจพบได้ในอีกตัวละครหนึ่งคือ ภีษมะ ผู้ที่ต้องรบกับหลานปาณฑพของตนเพื่อปกป้องกรุงหัสตินาปุระ แม้จะรู้ว่าปาณฑพเป็นฝ่ายถูกก็ตาม แต่สำหรับผมแล้ว ปมขัดแย้งในใจของภีษมะไม่รุนแรงเท่ากรรณะ เพราะถือเป็นหน้าที่และคำปฏิญาณของภีษมะที่ต้องปฏิบัติโดยไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว (และภายหลังภีษมะก็เลือก "ความตาย" เพื่อให้หน้าที่ของตนจบสิ้นลง) แต่สำหรับกรรณะแล้ว เขามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะ "เลือก" ไม่ว่าจะเลือกมาเข้ากับปาณฑพซึ่งเป็นพี่น้องแท้ ๆ หรือแม้กระทั่งเลือกที่จะเป็นกลาง แต่เขาก็ไม่เลือก สำหรับเขาแล้ว สายเลือดหรือความถูกต้อง ไม่สำคัญเท่าธรรมะในใจเขาเองที่จะไม่ทรยศเพื่อน นางกุนตีเป็นแม่ของกรรณะแต่ไม่เคยได้เลี้ยง พี่น้องแท้ ๆ ของกรรณะก็ไม่มีใครยอมรับในตัวเขา บุญคุณที่ทุรโยธน์มีต่อกรรณะก็เป็นสิ่งที่ยากจะทำเป็นมองไม่เห็นหรือไม่เคยมีอยู่ ในเมื่อพวกปาณฑพคือเสี้ยนหนามเดียวในใจของทุรโยธน์ เพื่อนอย่างกรรณะจึงสมควรที่จะเป็นผู้ช่วยขจัดเสี้ยนหนามในใจของเพื่อน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าทุรโยธน์กำลังทำในสิ่งที่ผิด และรู้อยู่เต็มอกว่าตนไม่สามารถเตือนสติทุรโยธน์ได้อีกแล้ว แต่กรรณะก็ไม่คิดจะหนีไป สำหรับเพื่อนตายอย่างกรรณะแล้ว ต่อให้ต้องตามไปจนสุดขอบนรก กรรณะก็จะทำ นี่มิใช่คุณธรรมที่เพื่อนมีต่อเพื่อนหรือ? นี่มิใช่สิ่งที่น่าสรรเสริญที่เพื่อนทำต่อเพื่อนหรือ?
บุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่างกรรณะ สุดท้ายจึงต้องตายเพราะถูกอรชุนยิงในขณะที่ไม่พร้อมรบ เนื่องจากคำยุยงของพระกฤษณะ ซ้ำก่อนหน้านี้พระอินทร์ บิดาของอรชุนก็มาแลกอาวุธศักติกับเกราะวิเศษของกรรณะ และลูกของภีมะก็ยอมโดนศักตินั้นเสียเองก่อนที่กรรณะจะได้ใช้กับอรชุน และกรรณะเองก็ยังลืมมนตร์ที่จะเรียกศรปาศุปัตเพราะถูกอาจารย์สาป การฆ่ากรรณะอย่างไม่สมศักดิ์ศรี การไม่สามารถจะป้องกันตัวเองได้ของกรรณะ และการยอมสูญเสียหลายสิ่งเพื่อที่จะฆ่ากรรณะนี้จะบอกอะไร? สิ่งเหล่านี้เองที่บอกว่า กรรณะเป็นนักรบที่เก่งกล้าน่าครั่นคร้ามมากเพียงใด และลำพังความสามารถของอรชุนเพียงคนเดียวก็ยังมิอาจโค่นนักรบอย่างกรรณะลงได้
กรรณะจึงเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากในเรื่อง เหตุเพราะความไม่สมบูรณ์ของชีวิตที่โชคชะตาเป็นผู้กำหนด และความพยายามดิ้นรนอย่างเต็มความสามารถเพื่อเอาชนะโชคชะตาของตนนั่นเอง ผลสุดท้ายแม้กรรณะจะไม่สามารถเอาชนะชะตากรรมของตนเองได้ แต่ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า เขาเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่มากเพียงใด
*ขอบคุณภาพประกอบจาก mohanudgiri.blogspot.com
จะด้วยความไม่ถูกใจ หรืออัดอั้นตันใจอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็ได้เขียนเกี่ยวกับตัวละครนี้ไว้ยืดยาวพอสมควร เลยคิดว่าน่าจะเอามาลงไว้ในบล็อกเผื่อเก็บไว้อ่าน หรือเผื่อว่าหลายคนที่ได้อ่าน อาจจะเข้าใจตัวละครนี้มากขึ้น และเข้าใจว่า ทำไมผมถึงชอบ... ฝ่ายร้าย ไม่สิ พระรอง ก็ไม่อีกแหละ เอาเหอะ จะเป็นอะไรก็คือ "กรรณะ" ก็แล้วกัน
กรรณะ เป็นตัวละครผมคิดว่าที่น่าเห็นใจที่สุดในเรื่องมหาภารตะ ชีวิตของกรรณะถูกกำหนดด้วยชะตากรรมทั้งชีวิต เขาเป็นบุตรของสุริยเทพ ควรจะได้เป็นพี่ชายคนโตของฝ่ายปาณฑพ (ฝ่ายตัวเอก) แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้เขาเกิดมาผิดเวลา! เหตุเพราะนางกุนตีในวัยสาวเพียงอยากทดลองมนตร์ บุตรพระสุริยเทพจึงต้องกลายไปเป็นคนในวรรณะศูทร เพราะนางกุนตีจำต้องทิ้งเขาไปเนื่องจากเกรงคำครหาที่มีลูกขณะที่ยังไม่ได้แต่งงาน คนเลี้ยงม้าจึงเก็บกรรณะไปเลี้ยง
ตลอดชีวิตของกรรณะ แม้จะปรากฏว่ามีฝีมือและวีรกรรมทัดเทียมกับอรชุน พระเอกของเรื่อง แต่ก็ไม่ได้รับการยกย่อง มีเพียงคำดูถูกว่าเป็นพวกวรรณะต่ำที่อาจหาญจะมาแข่งขันกับคนวรรณกษัตริย์อย่างอรชุน แม้ว่าหลายครั้งจะปรากฏว่า กรรณะเก่งกว่าพวกปาณฑพมากก็ตาม (ในฉบับสันสกฤตไม่สามารถอ่านได้ ในฉบับภาษาอังกฤษไม่แน่ใจว่าอ่านถูก แต่ในฉบับไทยจำได้ว่ากรรณะล้มภีมะได้แต่ไม่ฆ่าเพราะให้สัญญากับนางกุนตีไว้ และยิงธนูแม่นจนเกือบทำให้อรชุนสิ้นชีพไปครั้งหนึ่ง หากไม่ได้ฝีมือการขับรถศึกของพระกฤษณะช่วยไว้)
ไมตรีเดียวที่กรรณะได้รับมาจากมือของทุรโยธน์ ดังนั้นอาจพูดไม่ได้เต็มปากว่าถูกทุรโยธน์หลอกใช้ (แม้ว่าเจตนาแรกเริ่มของทุรโยธน์จะเป็นไปในทางหลอกใช้ก็ตาม แต่ในภายหลังทุรโยธน์ก็ปฏิบัติต่อกรรณะเฉกเช่นเพื่อนแท้คนหนึ่ง) เพราะฝ่ายธรรมะเองก็ปฏิเสธกรรณะแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะอรชุนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง กรรณะจะเหลือทางเลือกใดอีกนอกจากรับไมตรีของทุรโยธน์ และทุรโยธน์เองก็ปฏิบัติต่อกรรณะอย่างเพื่อนที่ดีที่สุดจริงๆ ทั้งมอบทรัพย์สมบัติ มอบแคว้นให้ครองเพื่อเป็นการเชิดหน้าชูตาและเปลี่ยนสถานะทางสังคม หรือบางครั้งที่กรรณะไม่เห็นโดยกับแผนลอบกัดพวกปาณฑพของทุรโยธน์ กรรณะก็ปฏิเสธไม่เข้าร่วม และทุรโยธน์ก็ไม่ได้บีบบังคับให้เข้าร่วมหรือบอกเลิกคบกับกรรณะแต่อย่างใด ทั้งสองยังคงมิตรภาพที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนมีผู้กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างอรชุนและกฤษณะเป็นมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ไม่เท่ามิตรภาพของกรรณะและทุรโยธน์
ในนวนิยายเรื่อง "โรงเรียนที่เงียบที่สุดในโลก" นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ของปีที่ผ่านมา ของฟ้า พูลวรลักษณ์ มีตอนหนึ่งที่ตัวละครถกเถียงกันถึงความสำคัญระหว่างสองตัวละครคือ กรรณะ และอรชุน ตัวละครหนึ่งได้แสดงทัศนะว่า การขาดกรรณะไปอาจทำให้เรื่องขาดหายไปสักบรรพสองบรรพ แต่หากขาดอรชุนไป มหาภารตะจะไม่สามารถคงอยู่ได้ เพราะอรชุนเป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง นั่นอาจจะจริง เพราะเรื่องราวดำเนินไปโดยเน้นที่การผจญภัยของฝ่ายปาณฑพ และการสรรเสริญวีรกรรมของอรชุน นักรบผู้เก่งกล้าที่สุดของเรื่อง แต่หากถามผม ผมกลับคิดว่า หากขาดกรรณะไป เรื่องคงจืดชืดเกินกว่าจะดำเนินไปได้อย่างออกรสเช่นนี้
เพราะกรรณะคือตัวละครที่เป็นเสมือนตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาที่ต้องต่อสู้อย่างหนักในจิตใจตนเอง ระหว่างการเลือกธรรมะหรืออธรรม บุญคุณหรือความถูกต้อง ความขัดแย้งนี้อาจพบได้ในอีกตัวละครหนึ่งคือ ภีษมะ ผู้ที่ต้องรบกับหลานปาณฑพของตนเพื่อปกป้องกรุงหัสตินาปุระ แม้จะรู้ว่าปาณฑพเป็นฝ่ายถูกก็ตาม แต่สำหรับผมแล้ว ปมขัดแย้งในใจของภีษมะไม่รุนแรงเท่ากรรณะ เพราะถือเป็นหน้าที่และคำปฏิญาณของภีษมะที่ต้องปฏิบัติโดยไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว (และภายหลังภีษมะก็เลือก "ความตาย" เพื่อให้หน้าที่ของตนจบสิ้นลง) แต่สำหรับกรรณะแล้ว เขามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะ "เลือก" ไม่ว่าจะเลือกมาเข้ากับปาณฑพซึ่งเป็นพี่น้องแท้ ๆ หรือแม้กระทั่งเลือกที่จะเป็นกลาง แต่เขาก็ไม่เลือก สำหรับเขาแล้ว สายเลือดหรือความถูกต้อง ไม่สำคัญเท่าธรรมะในใจเขาเองที่จะไม่ทรยศเพื่อน นางกุนตีเป็นแม่ของกรรณะแต่ไม่เคยได้เลี้ยง พี่น้องแท้ ๆ ของกรรณะก็ไม่มีใครยอมรับในตัวเขา บุญคุณที่ทุรโยธน์มีต่อกรรณะก็เป็นสิ่งที่ยากจะทำเป็นมองไม่เห็นหรือไม่เคยมีอยู่ ในเมื่อพวกปาณฑพคือเสี้ยนหนามเดียวในใจของทุรโยธน์ เพื่อนอย่างกรรณะจึงสมควรที่จะเป็นผู้ช่วยขจัดเสี้ยนหนามในใจของเพื่อน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าทุรโยธน์กำลังทำในสิ่งที่ผิด และรู้อยู่เต็มอกว่าตนไม่สามารถเตือนสติทุรโยธน์ได้อีกแล้ว แต่กรรณะก็ไม่คิดจะหนีไป สำหรับเพื่อนตายอย่างกรรณะแล้ว ต่อให้ต้องตามไปจนสุดขอบนรก กรรณะก็จะทำ นี่มิใช่คุณธรรมที่เพื่อนมีต่อเพื่อนหรือ? นี่มิใช่สิ่งที่น่าสรรเสริญที่เพื่อนทำต่อเพื่อนหรือ?
บุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่างกรรณะ สุดท้ายจึงต้องตายเพราะถูกอรชุนยิงในขณะที่ไม่พร้อมรบ เนื่องจากคำยุยงของพระกฤษณะ ซ้ำก่อนหน้านี้พระอินทร์ บิดาของอรชุนก็มาแลกอาวุธศักติกับเกราะวิเศษของกรรณะ และลูกของภีมะก็ยอมโดนศักตินั้นเสียเองก่อนที่กรรณะจะได้ใช้กับอรชุน และกรรณะเองก็ยังลืมมนตร์ที่จะเรียกศรปาศุปัตเพราะถูกอาจารย์สาป การฆ่ากรรณะอย่างไม่สมศักดิ์ศรี การไม่สามารถจะป้องกันตัวเองได้ของกรรณะ และการยอมสูญเสียหลายสิ่งเพื่อที่จะฆ่ากรรณะนี้จะบอกอะไร? สิ่งเหล่านี้เองที่บอกว่า กรรณะเป็นนักรบที่เก่งกล้าน่าครั่นคร้ามมากเพียงใด และลำพังความสามารถของอรชุนเพียงคนเดียวก็ยังมิอาจโค่นนักรบอย่างกรรณะลงได้
กรรณะจึงเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากในเรื่อง เหตุเพราะความไม่สมบูรณ์ของชีวิตที่โชคชะตาเป็นผู้กำหนด และความพยายามดิ้นรนอย่างเต็มความสามารถเพื่อเอาชนะโชคชะตาของตนนั่นเอง ผลสุดท้ายแม้กรรณะจะไม่สามารถเอาชนะชะตากรรมของตนเองได้ แต่ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า เขาเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่มากเพียงใด
*ขอบคุณภาพประกอบจาก mohanudgiri.blogspot.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)