วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

My Neighbor Totoro: เพื่อนรักของเด็กเด็ก ความฝันเล็กเล็กอันแสนโหดร้าย

(เปิดเผยเรื่องราวในภาพยนตร์)

มีคนทักมานานว่าน่ารักเหมือน Totoro (ฮา) แต่ก็เพิ่งได้ชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้ (ตกยุคมาก 55) และก็เกือบจะจบลงด้วยความอิ่มเอมใจอย่างที่ผู้สร้างอยากจะให้เป็น แต่เนื่องจากข้าพเจ้ามีข้อสังเกตเล็ก ๆ ตรงท้าย ๆ เรื่อง จึงลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวแก่ Totoro ดู และพบกับความจริงอันน่าเศร้าบางประการ---

ก่อนอื่นควรจะต้องเล่าถึงเรื่องย่อในแอนิเมชั่นเสียก่อนพอให้รู้เรื่องคร่าว ๆ --- เด็กน้อยสองคนชื่อ Satsuki และ Mei ย้ายบ้านมาอยู่ที่ชนบทและได้พบกับสัตว์ประหลาดชื่อว่า Totoro (ซึ่งอาจเป็นชื่อที่ Mei ตั้งให้จากเสียงคำรามของมัน หรือเป็นคำพ้องเสียงของ Troll ในการออกเสียงแบบญี่ปุ่น) นับแต่วันที่เด็กน้อยทั้งสองได้พบกับ Totoro ก็มีเรื่องราวมหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายราวกับความฝัน

แม่ของทั้งสองป่วยและรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมานาน วันหนึ่งถึงกำหนดที่แม่จะกลับบ้าน โรงพยาบาลกลับโทรเลขมาให้พ่อติดต่อกลับไป ทั้ง Satsuki และ Mei กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับแม่ น้องสาว Mei จึงหอบข้าวโพดวิ่งไปโรงพยาบาลโดยหวังว่าจะให้แม่กินเพื่อให้อาการดีขึ้น ฝ่าย Satsuki เมื่อเห็นน้องหายไปนานจึงออกตามหาแต่ก็ไม่พบ เมื่อได้ยินข่าวว่าพบรองเท้าของ Mei ในสระน้ำจึงรีบรุดกลับมาดู แต่ก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่ใช่รองเท้าของน้องสาว เธอหมดหนทางตามหาน้องจึงขอความช่วยเหลือจาก Totoro พี่น้องทั้งสองจึงได้พบกันและได้นำของฝากไปเยี่ยมแม่ เพลงท้ายเรื่องบอกกล่าวเราว่าเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข

อาจกล่าวได้ว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมมีแต่ความสุขและอิ่มเอมใจ เพราะเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย ความเกลียดชัง หรือความรู้สึกด้านลบเลยแม้แต่น้อย เป็นเสมือนภาพฝันวัยเยาว์อันแสนงดงาม ดังที่ Roger Ebert นักวิจารณ์ภาพยนตร์กล่าวไว้ว่า

    "My Neighbor Totoro is based on experience, situation and exploration—not on conflict and threat,"

นอกจากนั้นยังกล่าวถึงเสน่ห์ของเรื่องนี้ว่า

    "...it would never have won its worldwide audience just because of its warm heart. It is also rich with human comedy in the way it observes the two remarkably convincing, lifelike little girls... It is a little sad, a little scary, a little surprising and a little informative, just like life itself. It depends on a situation instead of a plot, and suggests that the wonder of life and the resources of imagination supply all the adventure you need."

ฉากการพบกันครั้งแรกระหว่าง Mei กับ Totoro คือการที่ Mei ตาม Totoro ตัวน้อย ๆ เข้าไปในพุ่มไม้จนจับพลัดจับผลูหล่นลงไปในถ้ำ หากจะตีความว่าป่าคือความเป็นผู้หญิง (Womanhood) และถ้ำนั้นคือช่องคลอด (Vagina) ซึ่งเป็นสถานที่ให้กำเนิดมนุษย์ การเดินทางจากป่าสู่ถ้ำจนได้พบสัตว์ประหลาดตัวอ้วนกลมในเรื่อง จึงน่าจะหมายถึงการย้อนกลับไปสู่ "ความฝันและจินตนาการในวัยเยาว์" ของเด็กทั้งสองคนที่มีความผูกพันกับแม่อย่างลึกซึ้ง นั่นคือพวกเธอสร้าง Totoro ขึ้นมาในจินตนาการเพื่อชดเชยกับการต้องอยู่ห่างจากแม่ หลายครั้งจึงปรากฏว่าหลังจากพบ Totoro เด็กสองคนมักจะตื่นขึ้นมาราวกับว่าเรื่องที่พบ Totoro เป็นความฝัน

อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตของข้าพเจ้าตอนท้ายเรื่องในฉากที่ Satsuki เห็นรองเท้าในสระน้ำแล้วบอกว่าไม่ใช่รองเท้าของ Mei เป็นฉากที่ใช้เวลานานจนน่าสงสัย และอันที่จริงไม่จำเป็นต้องมีฉากนี้ก็ได้ หากหา Mei ไม่พบก็วิ่งไปขอร้อง Totoro แต่แรกเลยไม่ดีกว่าหรือ?

จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้พบข้อสันนิษฐานของนักวิจารณ์ภาพยนตร์กลุ่มหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่า แท้จริงแล้ว Totoro คือยมทูต (Shinigami: God of Death) ดังที่กล่าวไว้ในบล็อก http://hayao-miyazaki.tumblr.com/post/4273299861/totoro-shinigami และเรื่องราวในแอนิเมชั่นแท้จริงแล้วกำเนิดมาจาก "เหตุการณ์ในเมืองซายามะ" (The Sayama incident) ซึ่งมีเนื้อความคร่าว ๆ ว่า เด็กน้อยคนหนึ่งถูกลักพาตัวไปข่มขืนและฆ่า เมื่อพี่สาวได้พบศพน้องจึงเสียใจมากจนเสียสติ พร่ำรำพันว่าเห็นทานูกิยักษ์ และแมวปีศาจ ต่อมาไม่นานพี่สาวก็ฆ่าตัวตายตามน้องไป ดังเนื้อความว่า:

    The Sayama incident occured in May 1963. It’s quite an important case for discrimination in Japan. The case goes that one day, in Sayama (in Saitama prefecture), a young girl was kidnapped for ransom, raped and then murdered. Her older sister apparently found her body, but was so traumatized by it, when asked what she had seen, she merely said “I met a large Tanuki (looks like a racoon)” and “I saw a cat monster.” ... Anyway, the older sister later commited suicide.

นักวิจารณ์ได้ตั้งข้อสังเกตหลายประการว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ในซายามะ เป็นต้นว่า มีข้อความและสถานที่ในเรื่องหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าชนบทที่สองพี่น้องย้ายไปอยู่นั้นคือเมืองซายามะ (อ่านรายละเอียดในบล็อก) นอกจากนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมก็พ้องพานกับชื่อของสองพี่น้องคือ Mei ออกเสียงคล้าย May และ Satsuki ก็เป็นวิธีออกเสียงแบบหนึ่งของเดือนพฤษภาคมอีกด้วย

ส่วนเรื่องความตายของ Mei และ Satsuki มีความเกี่ยวพันกับ "รถบัสแมว" (The Nekobus: A bus-shaped giant cat) ที่ปรากฏขึ้นตอนที่มันจะพา Satsuki ไปหา Mei ซึ่งรถบัสแมวได้ขึ้นป้ายจุดหมายปลายทางตามลำดับว่า  ป่า - หนองน้ำ - สุสาน - หีบศพ - Mei ซึ่งมีความหมายตามลำดับถึงการตายของ Mei คือ "ป่า" เป็นสัญลักษณ์หมายถึงความเป็นผู้หญิง (Womanhood) ซึ่งตามเหตุการณ์ซายามะนั้น Mei ถูกข่มขืน (การทำลายหรือล่วงล้ำ Womanhood) หนองน้ำคือสถานที่พบศพ จากนั้นเธอก็ถูกนำไปสุสานและถูกฝังไว้ในหีบศพ ทั้งหมดคือสถานที่ที่ Satsuki ต้องการจะไปเช่นเดียวกับน้องสาว คือไปสู่ความตาย (ในบล็อกภาษาอังกฤษอธิบายอีกอย่างว่าก่อนจะถึงคำว่า Mei มีคำหนึ่งปรากฏขึ้น คำแรกหมายถึงสุสาน คำที่สองหมายถึงถนน: the first character means grave, the second meaning road. หรือก็คือถนนที่นำไปสู่ความตาย แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า "ป่า" และ "หนองน้ำ" ก็มีความหมายที่สำคัญไม่แพ้กัน จึงยึดตามซับไตเติ้ลภาษาไทยเป็นหลัก)

นอกจากนั้นในเพลงประกอบตอนรถบัสแมว ยังมีข้อความตอนหนึ่งว่า:

    notta okyaku wa youki na obake (those guests who ride are cheerful ghosts.)

การขึ้นรถบัสแมวเพื่อออกตามหา Mei จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะหมายถึงการฆ่าตัวตามตามน้องสาวของ Satsuki เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ซายามะ ส่วนข้อสันนิษฐานว่า Totoro คือยมทูต และเรื่องราวในแอนิเมชั่นคือ The Sayama incident นั้นยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกมากซึ่งอ่านเพิ่มเติมได้ในบล็อกที่ยกมาข้างต้น

การกล่าวว่าเรื่องราวสุขนาฏกรรมใน Totoro แท้จริงแอบซ่อนโศกนาฏกรรมแสนเศร้าไว้เบื้องหลังอาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจผู้ชมมากไปหน่อย แต่ที่จริงแล้วสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง ความตายอาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยสำหรับพวกเธอ เห็นได้จากฉากแรก ๆ ที่พวกเธอได้พบบ้านใหม่ (แต่สภาพเก่ามาก) และเขย่าเสาบ้าน (ซึ่งใกล้พัง) อย่างสนุกสนาน แถมยังตะโกนอย่างมีความสุขว่า "บ้านจะพังแล้ว" ราวกับเป็นเรื่องเล่นสนุกสำหรับพวกเธอ และอีกฉากหนึ่งที่มีลมพายุหนักพัดบ้านจวนจะพังมิพังแหล่ บางครั้งเกิดเสียงดังน่ากลัวเหมือนมีผี แต่พ่อก็บอกให้พวกเธอหัวเราะเสียงดัง ๆ เพื่อไล่ผี ภาพที่สองพี่น้องหัวเราะเสียงดังท่ามกลางบ้านที่จวนเจียนจะพังทำให้เห็นว่าทั้งคู่ไม่ยี่หระต่อสิ่งซึ่งต้องสูญสลาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือร่างกาย (หากเปรียบสังขารเป็นบ้านของวิญญาณ) เมื่อคนหนึ่งออกจากสังขาร ฝ่ายพี่จึงไม่ลังเลที่จะออกจากสังขารเช่นกัน อาจจะด้วยความหวังว่าจะได้พบน้องสาวในโลกวิญญาณ และนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกันว่าทำไมเมื่อทั้งสองได้พบ Totoro (ซึ่งแท้จริงเป็นยมทูต) จึงไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ กลับเห็นว่าเป็นสัตว์ประหลาดใจดีน่ารัก อีกทั้งคำพูดที่ได้ยิน Mei พูดบ่อย ๆ คือ "หนูไม่กลัวผี" นั่นคือไม่กลัวที่จะอยู่กับโลกหลังความตายนั่นเอง

อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้ Satsuki ตัดสินใจตายตาม Mei ไปคือความรักของพี่น้อง ในเรื่องนั้นทั้งสองคนไม่ได้รักกันอย่างธรรมดา แต่รักกันจนเสมือนเป็นคนเดียวกัน ฉากความผูกพันบางฉากเช่น Mei ตาม Satsuki ไปที่โรงเรียนนั้นอาจดูเป็นความรักของพี่น้องที่แสนธรรมดา ฉากที่น่าคิดกลับเป็นฉากที่ Mei จับภูติปล่อยฝุ่น (Susuwatari) ได้ แต่คนที่เปื้อนฝุ่นกลับเป็นทั้ง Mei และ Satsuki (หากจะกล่าวว่าทั้งคู่เปื้อนฝุ่นตอนขึ้นไปชั้นบน เหตุใดไม่มีรอยเท้าเปื้อนฝุ่นของ Satsuki โผล่ตามทางลงมาจากชั้นบน?) นอกจากนั้นในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ ภาพของคนที่รอรถเมล์อยู่นั้นไม่ใช่ทั้ง Satsuki และ Mei เพราะเธอใส่ชุดของ Satsuki แต่ผูกผมเหมือน Mei (Satsuki บอกในเรื่องว่าชอบไว้ผมสั้น) แต่สีผมกลับเป็นสีของ Satsuki อีกทอดหนึ่ง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสองพี่น้องมีความผูกพันกันจนแยกไม่ออก นี่อาจเป็นการปูพื้นเรื่องไว้อย่างชาญฉลาดของผู้กำกับซึ่งแสดงถึงความผูกพันของสองพี่น้อง และนำไปสู่บทสรุปสุดท้ายคือความตายของทั้งคู่ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

ภาพร่างของความตายเบื้องหลังเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องเศร้าโศก แต่ผู้กำกับ Hayao Miyazaki ก็ได้นำมาสร้างให้เป็นแอนิเมชั่นเรื่องยิ่งใหญ่ผ่านสายตาของเด็กซึ่งงดงามเปี่ยมความฝัน Totoro กลายเป็นตัวละครที่มีชื่อเสียงมากที่สุดตัวหนึ่งและจะสร้างความสุขในใจให้เด็ก ๆ เช่นเดียวกับตัวการ์ตูนอย่างมิกกี้เมาส์หรือวินนี่เดอะพูห์ หากจะมีคำขอโทษหรือการชดเชยใดสำหรับเหตุการณ์ซายามะที่ผู้ใหญ่ได้ทำลายความพิสุทธิ์ของเด็กลง ก็คงไม่มีการชดเชยแบบใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการนำเรื่องราวอันแสนเศร้ามาเล่าชดเชยความผิดบาปนั้น เพื่อให้เด็ก ๆ มีความฝันอันแสนงดงามอย่างที่เขาควรจะได้รับ ดังเช่นที่ My Neighbor Totoro ได้กลายมาเป็นเพื่อนรักของเด็ก ๆ และความฝันเล็ก ๆ ของทุกคน

แม้ว่าที่สุดแล้ว เรื่องราวอันแสนเศร้านั้นอาจจะถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่อย่างน้อยก็ขอให้ความทรงจำที่เหลืออยู่เป็นความทรงจำที่แสนงดงาม

วุฒินันท์ ชัยศรี

๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖

บทความอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/My_Neighbor_Totoro
http://hayao-miyazaki.tumblr.com/post/4273299861/totoro-shinigami
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ ไม่เคยเห็นมุมมองนี้เลย

    ตอบลบ
  2. เป็นมุมมองที่ห่วยสุดๆ เท่าที่เคยอ่านมาเลย เอาโน้นเอานี่มาปะติดปะต่อกันเองทางความคิด สิ่งที่สื่อจากหนังก็ไม่ได้ดูแล้วจะเป็นอย่างที่วิจารณ์ เช่น ฉากเจอรองเท้าในสระน้ำสิ่งที่เค้าสื่อคือยังไม่ใช่รองเท้าของเมย์ และมีการตามหาต่อไป จนต้องขอร้องโทโทโร่

    บอกจริงๆนะถ้าดูหนังหรืออ่านหนังสือยังไม่มากพออย่าสะเหร่อมาเขียนบทความเลยครับ ขำๆ

    ตอบลบ
  3. อีกเรื่องนะครับผมอ่านหลายๆบทความคุณดูแล้วเหมือน อยากดังอยากสร้างจุดแตกต่าง อยากสร้างจุดน่าสนใจ แต่จริงๆรู้ไหมครับมันแทบไม่ได้เรื่อง คงอีกนานหรือแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับความฝันคุณ

    ตอบลบ