อาจารย์บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์ เป็นอาจารย์ที่เด็กอักษรฯ
ศิลปากรทุกคนรู้จักและน่าจะตราตรึงในความทรงจำมากที่สุดคนหนึ่ง
เพราะทุกคนจะต้องเคยผ่านวิชาบังคับ 3 ยำ
(อารยธรรมตะวันตก/อารยธรรมตะวันออก/อารยธรรมไทย : เรียกสั้น ๆ ว่า
ยำตก/ยำออก/ยำไทย) และในวิชาอารยธรรมไทยนี่เองที่เด็กอักษรฯ หลายคนได้
"เปิดหูเปิดตา" กับชุดความเชื่อ/ความจริงหลายเรื่องในสังคมไทย
(หรือบางคนก็เรียกอาการนี้ว่า "เปิดกะลา/เบิกเนตร")
บางคนตกใจเมื่อหมดคาบแรก บางคนเรียนจนจบก็ไม่เชื่อ
บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางคนชื่นชอบถึงขั้นตามไปเก็บ "(สา)ขาปรัชญา" เป็น 1 ใน 4 สาขาวิชาในใบปริญญาของตน หรือเลือกเรียนเอก/โทปรัชญาเพราะจุดเริ่มต้นจากวิชานี้
ไม่ว่าจะชื่นชอบหรือเฉยชากับวิชาอารยธรรมไทยของอาจารย์
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตั้งคำถามกับชุดความเชื่อที่เป็นแกนหลักของสังคมไทยและกระบวนการ
Critical Thinking คือสมบัติชิ้นสำคัญที่เด็กอักษรฯ
ปีหนึ่งทุกคนได้ติดตัวมาจากการเรียนวิชานี้
สิ่งนี้ทำให้พวกเรารู้จักคิดวิเคราะห์และตั้งคำถามกับชุดความเชื่อ/ความจริง/วาทกรรมทั้งหลายที่ได้พบในอีกสี่ปีตลอดการเรียนปริญญาตรี
และตลอดชีวิตนับจากนั้น
เช้าวันนี้ เด็กอักษรฯ
ศิลปากรทุกคนได้ทราบข่าวที่น่าใจหาย
(ทั้งที่วันก่อนยังได้อ่านโพสต์ที่อาจารย์เขียนถึงซีรีส์ Hotel Del Luna
แล้วก็คิดว่า เออ ถ้าอาจารย์เปิดวิชาปรัชญาจากซีรีส์จะไปขอซิตอินอยู่เลย)
ผมเองนอกจากวิชาอารยธรรมไทยแล้วก็ไม่ได้เรียนกับอาจารย์อย่างใกล้ชิด
จึงไม่แน่ใจว่าอาจารย์เชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตายอย่างไรบ้าง
แต่เมื่อวันนี้มาถึงก็ขอให้อาจารย์ได้สมหวังตามความเชื่อของอาจารย์นะครับ
และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของอาจารย์ ภาควิชาปรัชญา และคณะอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากรที่สูญเสียบุคลากรผู้ทรงคุณค่าไปครับ