วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ดีต่อใจ

ฉันไม่ใช่คนดีเท่าไร
แต่อาจจะดีขึ้นได้ ถ้าอยู่ใกล้ใกล้คนที่ดีต่อใจอย่างเธอ

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Basketball Excercise.

เนื่องจากหอพักอยู่ใกล้ ๆ สนามกีฬาที่มีแป้นบาส เช้า ๆ เราก็มักจะมาหาเรื่องให้เหงื่อออกบ้างโดยการหยิบจับลูกบาสมาวิ่งกระโดดชู้ตเบา ๆ สนุก ๆ กับคนแถวนั้น
ครึ่งเดือนผ่านไป เข่าทั้งสองข้างกับข้อศอกขวาปวดหนึบ ๆ คิดว่าเดี๋ยวคงหาย นานเข้ายิ่งปวดจนต้องทาเคาท์เตอร์เพน พร้อมกับหาปลอกเซฟเข่าเซฟข้อศอกมาใส่
อีกเดือนนึงเปลี่ยนจากรองเท้าวิ่งมาเป็นรองเท้าบาสจริงจัง เข่าเริ่มดีขึ้น ตอนเลย์อัพกระโดดแรง ๆ ได้มากขึ้น
(เขินเหมือนกันตอนไปซื้อ คนขายมองหน้าแบบ โอ นี่คงเป็นนักบาสที่เตี้ยที่สุดในโลก 555)
วันพฤหัสที่แล้วมีสอนเช้าแต่ตื่นสายนิด ก็เลยรีบเล่นเลยไม่ได้วอร์มร่างกายก่อน ผลคือเช้าวันต่อมาระบม ปวดจนต้องโอดโอยร้องขอชีวิตตอนลุกจากเตียง
นึกถึงสมัยวัยสะรุ่นที่ใส่นันยางคู่เดียว (ไม่ใส่ถุงเท้า) เล่นบาสหนัก ๆ แรง ๆ กับเพื่อน เช้ามาก็ดีดจากเตียงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตอนนี้แค่เล่น ๆ เบา ๆ แม่งใส่รองเท้าบาส ปลอกเซฟข้อเท้าข้อศอกมาเต็ม ก่อนเล่นยังต้องวอร์มร่างกายอีก โอ้ยชีวิต
นี่หรือร่างกายของคนวัย 30 นับวันถอยหลังทรุดโทรม ทำอะไรหนักนิดหน่อยก็กรอบ
อีกสิบปีข้างหน้าจะเป็นยังไงบ้างนะ

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตกหลุมรัก

เขียนถึงความรัก อาจไม่ใช่รักใหม่
เพราะคนเราอาจตกหลุมรักคนเก่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เราชอบความรู้สึกใจเต้นแรงตอนตกหลุมรัก
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรรอเราอยู่ที่ก้นหลุม

Leonardo Sciascia นักเขียนชาวอิตาลีบอกว่า
"ความจริงอยู่ที่ก้นบ่อน้ำ เวลาคุณมองบ่อน้ำ คุณจะเห็นดวงอาทิตย์ไม่ก็ดวงจันทร์ แต่ถ้าคุณกระโดดลงไป ไม่มีทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ จะมีก็แต่ความจริง"
เวลากระโดดลงหลุมรักหลุมเดิม เราชอบวินาทีที่อีกเอื้อมมือจะถึงดวงจันทร์ อีกแค่ปลายนิ้วจะคว้าคนที่เฝ้าฝันมากอด
แล้วก็ตูมมม! จมดิ่งลงไปในปลักโคลนความจริง แบบที่ปราณ ชายหนุ่มจากเรื่องไส้เดือนตาบอดในเขาวงกตเคยรู้สึกว่า

"รวดร้าวบิดริ้วขึ้นข้างใน ไม่รู้จะบอกเธออย่างไรว่าเขายังเจ็บ ไม่ใช่ตรงนั้น แต่ลึกลงไป ไม่ได้บอกว่าเขาเจ็บแค่ไหน ไม่ได้บอกว่าเขาทำอย่างไรกับความเจ็บปวดนั่น ไม่ได้บอกเธอว่าชั่วขณะหนึ่งเขาลืมตัวไปว่าเป็นใคร เดียวดายมาอย่างไร ฟันฝ่าชีวิตมาแบบไหน เคยผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมายเพียงใด ก่อนจะมาฟั่นเฟือนเลอะเทอะ...ว่าเขามีใคร"
ปกติแล้วเราฝังตัวเองอยู่ในหลุม ขุดลึกลงไปและนอนมุดคุดคู้อยู่ตรงนั้น
เพราะความเจ็บปวดเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีของการสร้างสรรค์งานเขียน เราจึงหมั่นทรมานตัวเองในก้นบึ้งของหลุมรักที่เป็นไปไม่ได้
แต่ช่วงนี้รู้สึกแปลก ๆ อยากจะปีนขึ้นจากหลุมรัก และกระโดดลงไปใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะเราเพิ่งพบว่า ความสุขที่เกิดจากการแอบรักก็เป็นเชื้อเพลิงที่ดีของการใช้ชีวิตเช่นกัน
แม้เป็นช่วงสั้น ๆ ก่อนตกหลุมลงไปพบกับความจริงก็ตาม

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คุกร้าย

หัวใจถูกก่อการร้ายหลายวันนัก
เธอมาก่อการรักให้ใจสั่น
ถูกจับขังคุกร้ายมาหลายวัน
คุกชื่อรอยยิ้มนั้น, ฉันยอมแพ้!

ม้าพยศ

หัวใจเหมือนม้าพยศ สมองเหมือนสารถี
เมื่อก่อนก็ยังดีดี สารถีพอคุมได้
แต่หลังจากพบเธอ ไม่รู้เป็นอะไร
เจ้าม้าเหมือนมีแรงใจ อยากพุ่งไปหาเจ้าของใหม่เสียอย่างนั้น
สารถีปราบพยศพัลวัน เมื่อไรมันจะหมดแรง
วอนเธออย่าแกล้งยิ้มให้
นึกถึงรอยยิ้มตาหยีทีไร ม้าพยศก็ดิ้นใหญ่
เหมือนว่าอยากไปจุมพิตเธอ

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ชีวิตที่เหลืออยู่

คนเราเริ่มใช้คำว่า "ชีวิตที่เหลืออยู่" เมื่อถึงช่วงไหนของชีวิตกันนะ?
บางคนอาจเริ่มใช้เมื่อทำงานจนถึงขีดสุดของสังขารและต้องการพักผ่อนในวาระสุดท้าย บางคนเริ่มใช้หลังจากประสบความสำเร็จสูงสุดและใช้วันเวลาที่เหลืออยู่เก็บเกี่ยวดอกผลแห่งความสำเร็จจนถึงช่วงบั้นปลายชีวิต
แต่สำหรับฉัน "ชีวิตที่เหลืออยู่" เกิดขึ้นเมื่อได้พบใครบางคนที่ทำให้ได้เข้าใจว่าการใช้ชีวิตเพื่อตัวเองมากว่าครึ่งชีวิตนั้นช่างไร้ความหมายสิ้นดี
หลังจากวันที่พบเธอ ชีวิตที่เหลืออยู่ของฉันมีเพียงความหมายเดียวคือ การได้ใช้มันเพื่อให้รอยยิ้มเปี่ยมสุขประดับอยู่บนใบหน้าสวยหวานนานเท่านาน และเหตุผลเดียวของชีวิตที่เหลืออยู่คือ การได้ลืมตาขึ้นมาพบกับดวงหน้าพริ้มฝันเป็นภาพแรกของทุกวันตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จับมือ

กับผู้หญิงคนอื่น, ก็เคยใจเต้นแรงเวลาจับมือ
แต่กับเธอ, เมื่อเรากุมมือกัน
ใจฉันกลับสงบนิ่ง อบอุ่น ไร้กังวล เหมือนทารกฝากชีวิตไว้ในอ้อมอกมารดา
พร้อมกับความคิดว่า หากวันสุดท้ายของชีวิตยังได้อยู่เคียงข้างผู้หญิงคนนี้
ชีวิตไร้คุณค่าของฉันก็คงพอจะมีความหมายขึ้นมาบ้าง