"จะไปรับผิดชอบหัวใจใครได้
แผลใจตัวเองยังรักษาไม่เคยหายเลย"
เสียงสัจธรรมแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง
ระงมเหมือนจิ้งหรีดกรีดกราวในรัตติกาล
อาจซุกซ่อนอยู่ในป่ารกชัฏของสำนึกสามานย์
หรือวางเด่นบนทุ่งโล่งของกระแสธารความสงัด
ไม่มี
ไม่เห็น
อื่นใดนอกจากความจริง
เรื่องน่าเศร้าในตอนต้นของนิทานที่ไม่มีใครเคยเล่า
โบราณอาจจะลืมกันไปหมดแล้ว, เว้นแต่เพียง "กาลครั้งหนึ่ง"
นั่นทำให้มายาคติทบซ้อนเป็นปราการนานกว่าหมื่นปี
ตัวตลกน่าหัวร่อนับตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเรียกขาน
แต่ทันทีที่ตัวตลกเผลอหัวเราะเสียเอง มันก็มีชื่อเรียก
หนึ่งหยดน้ำกระเซ็นซ่าน
ร้อนเหมือนไฟ
น้ำตา
ตราบเท่าที่ตนเองยังไม่พบความรุงรังในชื่อเรียก
อวัยวะสามสิบเอ็ดส่วนก็จะหายสาบสูญในโลกแสนเศร้า
ใครเลยจะรู้ว่าชิ้นที่สามสิบสองของบางคนสูบฉีดความรักมากกว่าเลือด
แม้แต่กระจกวิเศษในนิทานก็ไม่เคยบอกได้
เพราะจุมพิตของเจ้าชายต่างหากที่ปลุกเจ้าหญิงให้ฟื้น
มิใช่ความห่วงใยของคนแคระ
เวลาน้อยเกินไปเสมอ
สำหรับ
สิ่งสำคัญ
พร่ำบ่นคำตถตาไม่หยุดปาก
แต่เด็กน้อยใจบาปโง่เขลาเกินกว่าจะเข้าใจแม้แต่สูตรคูณ
อาจต้องใช้ตรรกะมากกว่าหมื่นชุดเพื่อเข้าใจหนึ่งคำ
ใครบางคนสร้างกรงนกเพื่อที่จะปล่อยนก
พ้นเกินตรรกะกว่าหมื่นล้านชุดของนักรู้เดียงสาอย่างฉัน
๑๒/๐๖/๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น