วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หญิงสาวยิ้มเศร้า

ราวกับจันทร์เพ็ญที่เปล่งแสงสกาวเป็นครั้งสุดท้ายของรัตติกาล ก่อนที่อุษาสางจะเบิกเบื้องทวารบถ
ฤานี่คือจุมพิตสุดท้ายของเทวีอาร์เทมิสในห้วงฝันอันเลือนรางเพื่อเป็นกำนัลแก่มรรตัยชน
รอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุด เจือด้วยความทุกขเทวษนิรันดร์ในค่ำคืนสุดท้ายแห่งการพบพาน
จะมีก็แต่เอนดิเมียนและฉันเท่านั้นที่เคยเห็น

ชวนให้หัวใจที่ไม่เคยลิ้มรสรักได้คร่ำครวญหา
ชวนให้แผลของผู้ปวดร้าวในรักเหวอะหวะด้วยความเปรมปรีดิ์
รินหลั่งมวลอารมณ์จากหน้าต่างแห่งสุขสันต์และโศกศัลย์ของดวงฤทัย
แล้วกอดรัดด้วยเถาวัลย์แห่งชีวิตอันอ่อนไหวและเปราะบาง
สนธยาอ่อนหวานฝากรอยจุมพิตไว้ที่กลีบดอกทานตะวัน
เพียงเพื่อแหงนมองนวลจันทร์หรี่แสงเมื่อพลัดพรากจากความรัก

หญิงสาวยิ้มเศร้า...
ประกายแสงสุดท้ายของดอกไม้ไฟเลือนหายไปเมื่อเสี้ยววินาที, เว้นแต่ในใจฉัน
รอยยิ้มเธอก็ดุจเดียวกัน


๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
แด่... หญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอันแสนเศร้าเกินกว่าที่จินตนาการของฉันจะบันทึกไว้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น