วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รำพึงถึงเพื่อนรัก

จู่ ๆ คิดถึงเพื่อนคนดีคนหนึ่งขึ้นมาจับใจ วันนี้อยากไปร่ำสุรากับมึงจนซอดแจ้งเลยว่ะ ในวาระของบางวันเวลาที่ความโศกเศร้าแม่งควรจะบดขยี้เราให้ตายให้พ้น ๆ จากโลกแห่งความปวดร้าวไปนานแล้ว ไม่ใช่ยังทนอยู่ในซากสังขารที่ปราศจากหัวใจเหมือนเช่นตอนนี้ เราทั้งสองแสร้งทำเป็นหัวเราะไม่ยี่หระต่อโลก แต่กูรู้ว่าหัวใจมึงแม่งเหลือแต่ผุยผงเหมือนกู เหี้ยเอ้ย! ขณะที่กูพร่ำรำพันถึงความร้าวรานในหัวใจอย่างยืดยาวกว่าสี่หมื่นแปดพันหน้ากระดาษเอสี่ จนใครบางคนแม่งห่วงว่ากูจะฆ่าตัวตาย มึงแม่งไม่ร้องสักแอะ! กูนับถือใจมึงจริง ๆ นรกเป็นพยานเถอะไอ้เพื่อนรัก! กูแค่อยากจะบอกว่ามึงไม่ผิดหรอก คนมีความรักน่ะไม่มีความผิด โดยเฉพาะคนที่มีหัวใจอันแสนอ่อนโยน แค่โลกนี้มันโหดร้ายเกินกว่าที่คนหัวใจอ่อนโยนอย่างมึงจะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีบาดแผล จริงอยู่ว่าสุราแม่งไม่ช่วยรักษาแผล แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราลืมเจ็บได้ชั่วคราว มันก็แค่ช่วยซื้อเวลาให้เรารักษาตัวเองได้อีกนิดหน่อย เวลาอาจไม่ใช่ยา แต่การเยียวยาต้องใช้เวลา เราซื้อเวลาไปวัน ๆ เพราะหวังว่าสักวันเราจะหายดี แต่ที่จริงมันไม่เคยมาถึง คำว่าสักวันคือวันที่ไม่เคยเดินทางมาถึง มึงรู้ กูรู้ ระยำเถอะ! เราแม่งควรจะลืมเรื่องทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่ใช่ไหม แต่กูรู้ว่ามึงทำไม่ได้ เพราะกูก็ไม่เคยลืม ใครแม่งจะลืมลงวะกับความทรงจำที่สวยงามขนาดนั้น แม้สุดท้ายมันจะทำให้เราเจ็บปวดก็ตามที มึงกอดเกี่ยวกุหลาบไว้ในหัวใจ ก็ไม่พ้นหนามแหลมทิ่มแทง ถึงมึงไม่ยอมเปิดปาก แต่ถ้าหากมึงอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา กูจะฟัง ถึงเค้าไม่เห็นคุณค่าของน้ำตามึง แต่กูรู้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหนสำหรับน้ำตาของผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงเพียงคนเดียวมาตลอดหลายปี ไอ้เหี้ย! มึงแม่งเป็นพิพิธภัณฑ์รักแท้ในรูปทรงของมนุษย์ มึงแม่งควรจะสูญพันธุ์ไปแล้วในโลกหลอกลวงที่คนแม่งแสวงหารักแท้เหมือนเอ็มวีสามนาทีกว่า ๆ ถ้าสถาบันวิจัยรักแท้มีอยู่จริง กูแม่งจะเสนอชื่อมึงเป็นคนแรกและคนเดียวในโลกให้เค้าจับไปทำวิจัย ให้เค้าผ่าหัวใจมึงออกดูว่ามันประกอบขึ้นจากอะไรทำไมมันถึงมีรักมั่นคงได้ขนาดนั้น ไปตายเถอะ! กูไม่ได้ไล่ กูชวน เราสองคนแม่งต้องไปตาย โลกสมบูรณ์แบบของเค้าไม่อนุญาตให้สิ่งชำรุดอย่างเราสองคนมีชีวิตอยู่ นั่นแหละสิ่งดีที่สุดที่เราจะให้เค้าได้ คือการตายไปจากชีวิตของเค้าเสีย แม้ว่ามันจะไม่ช่วยลบความรู้สึกลึกล้ำที่เราสองคนมีต่อเค้าก็ตามที แต่ก็คงดีกว่าที่เราสองคนยังมีชีวิตอยู่กับความทุกข์ทรมานให้เค้ารำคาญใจ วิญญูชนย่อมไม่สร้างความลำบากยากใจแก่ผู้คน เราแม่งเป็นวิญญาณชน คือมีสภาพเป็นวิญญาณในสายตาของเค้า ก็ไม่ควรทำให้เค้าลำบากใจ สิ่งที่เราทำได้ก็แค่นี้แหละ แค่ร่ำสุราปรับทุกข์ ราดรดแผลใจให้ลืม น้ำเมาแม่งอาจจะขมปาก แต่มันก็ไม่ขมเท่าน้ำคำที่ไม่เคยเอ่ยจากปาก โดยเฉพาะกับคนที่เราไม่เคยลืม สุดท้ายมันก็จบลงที่ความทุกข์ทรมานสำหรับคนที่มีชีวิตอยู่กับความทรงจำอย่างเราสองคน โกวเล้งแม่งยังเคยกล่าวไว้ "คิดอาศัยสุราราดรดทุกข์ ทุกข์กลับทับถมทวีคูณ รักยิ่งล้ำลึก ทุกข์ยิ่งเพิ่มทวี"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น