วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เหมือนเดิม

"กะเพราไก่ไข่ดาว"

ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปาก ป้าเจ้าของร้านอาหารตามสั่งก็จัดแจงเมนูให้ผมเสียเสร็จสรรพ ก่อนถามย้ำว่า เหมือนเดิมใช่ไหม ใช่ เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกแตกต่างไปจากเดิม ชีวิตของผมเป็นเช่นนั้นเสมอมา เสื้อยืดกางเกงยีนส์เหมือนเดิม ร้านข้าวปากซอยเหมือนเดิม สั่งอาหารเมนูเดิม น้ำส้มไบร์เล่ย์หนึ่งขวดเหมือนเดิม ชีวิตที่แสนแห้งแล้ง เดินตรงเหมือนนาฬิกา วนเวียนในหน้าปัดขนาดเล็กพอจะกักขังเข็มนาฬิกาสามเข็มให้วิ่งวนอย่างนั้นไม่รู้จบ

วันนี้เป็นแค่วันหนึ่ง ๆ เป็นวันหนึ่งที่ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีงานฉลอง ไม่มีของขวัญ สำหรับผมคนที่เหมือนเดิมทุกอย่าง ตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัวลวก ๆ เดินออกมากินข้าวร้านปากซอย หาหนังสืออ่านในร้านหนังสือหรือห้องสมุด นั่งริมแม่น้ำเหม่อมองทิวทัศน์ตอนเย็น ๆ แล้วกลับไปขังตัวเองในห้องเงียบเหงา ใช่ วันนี้เป็นแค่วันหนึ่ง ๆ ที่ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ หากจะมีความหมายอะไรสักอย่าง ก็คงไม่มีใครจำได้แล้ว เว้นแต่ผมคนที่ไม่เหมือนเดิมเท่านั้นที่ไม่เคยลืม วันนี้เป็นวันครบรอบเจ็ดปีที่เราสองคนคบกัน หากเรายังคบกันอยู่

ใช่-หากเรายังคบกันอยู่ แต่เธอหายไปจากชีวิตผมมานานนับปีแล้ว

เรื่องราวเมื่อเจ็ดปีก่อนเหมือนความฝัน เธอผู้มีรอยยิ้มหวานมองดูไม่รู้เบื่อ และมีโลกใบใหม่ที่น่าตื่นเต้นเดินเข้ามาในโลกเดิม ๆ ของผม เสื้อยืดกางเกงยีนส์ของผมเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตในบางวัน และร้านข้าวที่เธอพาไปก็ไกลกว่าปากซอย คงมีก็แต่เมนูอาหารที่ยังไม่เปลี่ยน

"กินเหมือนเดิมอีกแล้ว" เธอว่า

"ไม่เหมือนเดิมหรอก" ผมยิ้ม "อร่อยกว่าเดิมตั้งเยอะ"

หกปีที่คบกัน นานเกินจะฝัน สั้นเกินจะตื่น เธอทำให้ผมพบโลกใบใหม่ ผมตื่นเต้นกับโลกของเธอในทุกเช้าที่ตื่นนอน แต่สำหรับเธอ เธอพบโลกใบเดียวของผมซ้ำซากทุกวัน ผมยังเป็นคนเดิม คุยแต่เรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา ชีวิตที่แสนแห้งแล้ง เดินตรงเหมือนนาฬิกา วนเวียนในหน้าปัดขนาดเล็กพอจะกักขังเข็มนาฬิกาสามเข็มให้วิ่งวนอย่างนั้นไม่รู้จบ เธอไม่อยากเป็นเข็มนาฬิกา จึงเดินออกจากโลกที่มีขอบเขตแค่หน้าปัดเล็ก ๆ ไปหาคนอื่นที่มีโลกใบใหญ่ไม่ซ้ำซากจำเจ

"เหมือนเดิมใช่ไหม" ป้าเจ้าของร้านย้ำคำ

ผมตื่นจากภวังค์ ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดจากปาก ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าให้ อันที่จริงวันนี้ผมตั้งใจจะมาสั่งเมนูอื่น เมื่อวานเธอโทรมาหาผม เธอบอกให้ผมลองเปลี่ยนเมนูอาหารดูเสียบ้าง ถ้าไม่ลองเปลี่ยนเมนูจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรดีกว่าเดิมรออยู่หรือเปล่า เธอบอกผมอย่างนั้นหลังจากบอกข่าวสำคัญว่าเธอกำลังจะแต่งงาน สำหรับเธอวันนี้คือวันแต่งงานของเธอ เป็นวันพิเศษที่สุดในชีวิตของเธอ แต่สำหรับผมวันนี้ก็แค่วันหนึ่ง ๆ เป็นวันหนึ่งที่ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างยังคงเป็นไปเหมือนเดิม เว้นก็แต่ความตั้งใจที่จะลองเปลี่ยนเมนูอาหาร แต่สุดท้ายก็จบลงที่เมนูเดิม ผมจะเปลี่ยนอะไรได้อย่างไรในเมื่อยังไม่กล้าพอแม้แต่จะดึงรูปถ่ายของใครคนหนึ่งออกจากหัวเตียง ใครคนนั้นที่มีรอยยิ้มหวานมองดูไม่รู้เบื่อ

อาหารเมนูเดิม น้ำไบร์เล่ย์วางบนโต๊ะเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่วันนี้รสชาติของมันขมปร่าสิ้นดี

๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น