วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

ทุนนิยมนี่มันเหี้ยจริง ๆ

(1.)

เขาบอกว่าถ้าฉันซื้อของให้ครบสี่สิบบาท ฉันจะได้สิทธิ์แลกซื้อชาเขียวยี่ห้อหนึ่งสองขวดในราคา 25 บาท จากราคาปกติขวดละ 20 บาท สองขวดเก๊าะ 40 บาท ได้ลดตั้ง 15 บาทแน่ะ คุ้มฉิบหายเลย ฉันคิด ได้เวลาที่จะเอาคืนทุนนิยมบ้างแล้ว!

ฉันซื้อของกินของใช้ในร้านสะดวกซื้อแห่งนั้น เบ็ดเสร็จรวมได้ 80 บาท ได้สองสิทธิ์แลกซื้อ ฉันจึงซื้อชาเขียวสี่ขวดได้ในราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น

(2.)

กลับมาถึงห้อง ฉันเปิดชาเขียวลดราคาดูดจุ๊บ พลางพลิกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งฉันถอยมาจากงานลดราคาหนังสือแห่งชาติ หนังสือชื่อสั้น ๆ ว่า "ทุน" คัมภีร์สำคัญแห่งลัทธิต่อต้านทุนนิยมของคาร์ล มาร์กซ์ หรือที่ฉันเรียกอย่างเอ็นดูว่า พี่มาก เนื้อในเป็นกระดาษเก่ากรอบ คนขายเล่าลือว่าแปลตรงมาจากต้นฉบับภาษาเยอรมัน Das Kapital พิมพ์ให้นักศึกษาช่วงก่อน 6 ตุลาฯ ค้นคว้ากัน สนนราคาเหมือนปล้นแค่ 700 บาท!

"หนังสือเล่มแค่นี้ แถมยังเก่าขนาดนี้ พี่ขาย 700!"

"โถ่น้อง หนังสือยิ่งเก่ายิ่งมีคุณค่านะ นี่พี่อุตส่าห์ไปหามาจากร้านหนังสือเก่าที่นครสวรรค์ ทางนู้นขายกันเล่มละพัน พี่เหมา 5 เล่มเลยได้ลดเหลือเล่มละ 600 นี่ก็ให้ค่าน้ำมันพี่หน่อยเถอะนะ น้องเก็บไว้อีกสักสิบปี เผลอ ๆ จะขายได้เล่มละหลายพัน"

อีกหมื่นเหตุผลที่เขาพร่ำพรรณนาเหมือนชายหนุ่มขอความรักจากหญิงสาวจนฉันเคลิ้มเหมือนเขาจะขอแต่งงาน จึงเผลอตอบตกลงการซื้อขาย รู้ตัวอีกทีก็มีหนังสือมหาแพงไว้ในครอบครอง พลางปลอบใจตัวเองว่า เอาน่ะ อีกสิบปีก็ขายได้เล่มละหลายพัน เข้าใจว่าคนขายหนังสือเคยทำธุรกิจขายตรงแบบ MLM จึงมีวาทศิลป์โน้มน้าวเป็นเลิศ สิ่งเดียวที่ฉันยังข้องใจสงสัยอยู่คือ เมืองนครสวรรค์ขึ้นชื่อลือชาเรื่องหนังสือเก่าอยู่ล่ะหรือ ฉันนึกว่าดังแต่เรื่องขนมโมจิ

(3.)

จิบแรกของชาเขียวลดราคา เหมือนบรรลุพระธรรม โธ่! ฉันเสียท่าให้ทุนนิยมเสียแล้ว

เจ้าทุนนิยมมันหลอกให้ฉันหลงดีใจว่า ฉันเอาคืนมันได้ด้วยสินค้าลดราคาเหมือนแจก ที่ไหนได้ มันเอาน้ำต้มน้ำตาลให้หวาน ๆ ใส่กากชาพอให้มีกลิ่นชานิด ๆ สิริรวมราคาต้นทุนคงไม่ถึงสิบบาท แล้วบอกฉันว่าฉันได้ซื้อสินค้าลดราคา กว่าฉันจะได้ส่วนลดจากมัน ฉันต้องซื้อของไปตั้ง 80 บาท

เจ้าหนังสือ "ทุน" นั้นเล่า ฉันตั้งใจจะซื้อมาเพื่อหายุทธวิธีเอาชนะเจ้าทุนนิยมเท่านั้น แต่กว่าจะเดินทางมาถึงมือฉัน มันก็บวกมูลค่าหนังสือเก่าแถมยังค่าน้ำมันเข้าไปจนกลายเป็น 700 บาท แถมเหตุผลที่ฉันซื้อมาก็ไม่ใช่เพื่อศึกษายุทธวิธีเอาชนะทุนนิยมเสียแล้ว แต่เป็นการซื้อมาเพื่อเก็งกำไรไว้ขายต่อในอนาคตซะงั้น

สรุปว่าการที่ฉันคิดเหิมเกริมจะต่อกรกับเจ้าทุนนิยม ฉันต้องจ่ายให้แก่ค่ายุทธวิธีไป 700 บาท ค่าปฏิบัติการภาคสนามเบื้องต้นไป 130 บาท และปฏิบัติการแรก ฉันพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง รสน้ำหวานผสมกากชาที่ติดลิ้นเป็นเครื่องยืนยันได้

"ทุนนิยมนี่มันเหี้ยจริง ๆ" ฉันครวญคร่ำ น้ำตาหยดแหมะ ๆ



วุฒินันท์ ชัยศรี
๙ เมษายน ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น