วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

Kick Ass เกรียนโคตรมหาประลัย: อารมณ์เกรียน ๆ ของหนังเกรียนที่ไม่เกรียน

 
"คนธรรมดาก็เป็นฮีโร่ได้" ว้าว ๆ ๆ

แน่นอนเราไม่ได้พูดถึงคนธรรมดา (ตรงไหน) แบบบรู๊ซ เวย์น มหาเศรษฐีหนุ่มผู้ไปฝึกศิลปะการต่อสู้จากต่างแดน และใช้เครื่องมือสุดไฮเทคประกอบการเป็นซูเปอร์ฮีโร่นามแบทแมน (ยังไม่รวมถึงการก้าวข้ามความหวาดกลัวและตราบาปในวัยเด็ก โอ้... ดราม่าสุด ๆ) แต่เราพูดถึงคนธรรมดาจริงจริ๊ง... คนธรรมดาที่ใจยังไม่กล้าพอจะกระโดดข้ามตึก, คนธรรมดาที่ต้องนับ 1..2..3 ก่อนตัดสินใจเอาตัวไปเสี่ยงดงส้นทีนอันธพาล โดยมีอาวุธแค่กระบองเล็ก ๆ ที่ฟาดใครก็แค่เจ็บคันนิดหน่อย

แต่คนธรรมดาคนนั้นดันใส่ชุดประหลาด ๆ เพื่ออำพรางโฉมหน้าที่แท้จริง แอ่น แอน แอ้นนนน นี่มันซูเปอร์ฮีโร่แบบในการ์ตูนนี่หว่าเฮ้ย โอ... เขาต้องมีพลังพิเศษแน่ ๆ ไม่ทันขาดคำ ส้นทีนของอันธพาลก็ประเคนไปเต็มหน้าของ "ฮีโร่"

ให้มันได้อย่างนี้สิ! ฮีโร่แบบ "คนธรรมดา!"

.............
พล็อตเรื่องแบบ "คนธรรมดาก็เป็นฮีโร่ได้" ถ้าไม่เอามาใช้ทำหนังตลกล้อเลียน ก็ทำได้แค่หนังที่พูดถึงความเจ็บปวดและการเสียสละของฮีโร่ การยอมทิ้งชีวิตธรรมดาแลกกับการเป็นฮีโร่ ออกแนวดราม่า ๆ

แต่พอดูตัวอย่างหนังเรื่อง Kick Ass เอ๊ะ! มันจะเอาฮาอย่างเดียวก็ใช่ที่ ทำไมแอบมีพูดถึงความเจ็บปวดของฮีโร่ แต่เอ๊ะ! ฮีโร่ผู้เจ็บปวดประเภทไหนกันใส่ชุดฮีโร่เดินไปซื้อโค้กกินที่ร้านสะดวกซื้อ อ้าว! แล้วยังมีคนใส่หน้ากากโผล่มาอีกตั้งหลายคน ว้าว! มันมีหลายรสชาติจริง ๆ น่าดูโคตร ๆ ตอนนั้นผมเสียดายมากเพราะหนังเข้าตอนสงกรานต์ ช่วงกลับบ้านพอดี เลยอดดูในโรง (จ. ชัยภูมิไม่มีโรงหนังครับพี่น้อง!!) เลยหันมาเล็งแผ่นแทน แต่แผ่นก็ออกช้าสุด ๆ ไม่ทันใจวัยรุ่นเลย ทันทีที่ได้แผ่น เลยต้องรีบดู แต่...

ดูเหมือนว่า Matthew Vaughn จะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่, หนังที่บอกเล่าความเจ็บปวดและการเสียสละของฮีโร่, หนังที่คนธรรมดาต้องอุทิศตนเพื่อการเป็นฮีโร่ หรือจะเป็นหนังเอาฮาดี แถมยังมีต้นฉบับการ์ตูนมาคอยกดดัน เลยจับทุกอย่างใส่ไปให้หมดในเรื่องเดียว อารมณ์แบบ Action+Comedy+Drama นิด ๆ

ผลก็เลยเป็นว่า พอบทจะซึ้ง น้ำตาก็ไม่ไหล เพราะมันดันซึ้งแบบฮา ๆ พอบทจะหัวเราะ ก็หัวเราะได้แห้ง ๆ เพราะมันฮาแบบเครียด ๆ ทั้งที่ทีมพากย์พันธมิตรช่วยยื้อความฮาสุดชีวิตแล้ว พับผ่าสิ บางทีสถานการณ์ของเรื่องอาจไม่เอื้ออำนวยให้พันธมิตรยิงมุกตามถนัด เมื่อเทียบกับหนังล้อเลียนซูเปอร์ฮีโร่ฮาขี้แตกอย่าง Superhero Movie เลยปล่อยมุกมาได้แค่กระปริบกระปรอย สำหรับท่านที่ดู DVD เปิดซับได้ ขอแนะนำให้เปิดเสียงพากย์ไทย (ฟังพันธมิตรพากย์เอาฮา) เปิดซับอังกฤษ (อ่านบทหนังเอาฮา) ในซับอังกฤษมีคำด่าฮา ๆ เยอะ แต่ถ้าท่านนิยมฟังเสียงอังกฤษก็แล้วไป


.............
เอาล่ะ ที่ยอมรับจริง ๆ ก็ต้องเป็นฉากแอ็คชั่นที่มันส์สุดทีนมาก โดยเฉพาะฉากโหดเลือดสาดของ Hit Girl ที่แสดงโดย Chloë Grace Moretz สำหรับเรื่องนี้ ถ้ามีคะแนนเต็มสิบ ผมให้เธอสองร้อยแปดสิบ เธอเล่นขโมยซีนทุกคนไปหมดเลยแม้แต่นักแสดงระดับ Nicolas Cage และ ปล. ฉากบู๊ต้องดูด้วยความเกรียนปนโรคจิตเล็กน้อย แล้วจะได้ความสะใจโคตร ๆ ที่หนังได้เรท 18+ มาก็เพราะฉากเลือดสาดนี่มันเล่นกันแบบโหดเอาจริงเอาจังนี่แหละ แถมคนบู๊เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อีกตะหาก ถูกใจโลลิค่อนโรคจิตอย่างผมยิ่งนัก (จ๊ากกก) แถมดนตรีประกอบฉากแต่ละครั้งโคตรฮา แต่มันสาดดดด

ส่วนเรื่องอื่น ๆ เช่น เนื้อหาสาระ ความดราม่า ความฮา ผมให้คะแนนกลาง ๆ อารมณ์แบบว่าถึงจะไปดูในโรงก็คงไม่ถึงขนาดเสียดายเงิน เนื้อหาสาระนั้นมีแน่ แต่ไม่ต้องถึงกับใช้ทฤษฎีอะไรเข้ามาจับ ขอแค่ใช้อารมณ์เกรียนที่มีติดตัว (ถ้ามี) ในการเข้าถึง แล้วจะพบว่า ว้าว! นี่แหละความเกรียนแบบวัยรุ่นล่ะ แม้ปมปัญหาหลาย ๆ เรื่องยังไม่คลี่คลาย แต่ก็ดูเหมือนจะทำให้มีภาคต่อ (?) งั้นก็เก็บปมเรื่องไว้ไม่นำมาให้คะแนนละกัน

........
ไม่ถึงขนาดแนะนำว่า "ต้องดู" แต่ถ้าคุณเป็นคอหนังซูเปอร์ฮีโร่ หรือหนังแอ็คชั่นคอเมดี้ หรือไม่อยากพลาดหนังแนว ๆ แห่งยุคสมัย ก็สมควรไปหามาชม อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาสองชั่วโมงที่ใช้ตะลุยไปกับหนังอย่างแน่นอน

๑๗/๐๘/๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น