วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ทำทานให้หมา


ระหว่างขากลับจากทำธุระ ผมและพ่อขับรถมาทางถนนชัยภูมิ-ตาดโตน บริเวณตำบลนาฝาย ผมและพ่อพบด่านตรวจเล็กๆ ผมนึกโล่งใจที่ขณะนั้นพ่อเป็นคนขับอยู่ หาไม่แล้วหากผมขับคงต้องโดนปรับเพราะไม่มีใบขับขี่เป็นแน่ ทว่านายตำรวจคนนั้นก็ยังเรียกให้จอดรถ แต่สำหรับพลเมืองดีผู้ปฏิบัติตามกฎจราจรทุกประการ ภาษีรถก็เสียทุกปีครบถ้วนไม่ขาด ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายอันใดให้ต้องกลัวเลย นายตำรวจหยิบใบขับขี่ของพ่อมาดูพลางเดินสำรวจรอบรถ กระทั่งมาหยุดที่กันชนหน้ารถ ก่อนจะกวักมือเรียกเราทั้งคู่ออกไปดู

“กันชนเบี้ยวนะครับ มันบังทะเบียนรถเห็นไหม“

ผมพยายามทิ้งขว้างอคติที่มีมาแต่เดิมกับสัมมาชีพที่เรียกว่าตำรวจ พยายามมองด้วยใจเป็นกลางอย่างที่สุด แน่ล่ะกันชนรถผมเบี้ยวไปนิดนึงเนื่องจากสัปดาห์ก่อนเผอิญขับชนสุนัขด้วยความเร็วพอสมควร แต่มันก็ไม่เบี้ยวถึงขนาดบังป้ายทะเบียน แต่ตำรวจนายนั้นก็ยืนยันว่านี่คืออาชญากรรมบนท้องถนนที่มีราคาค่าปรับสองร้อยบาท ประชาชนผู้เลวทรามอย่างผมพยายามเถียงผู้พิทักษ์กฎหมายว่า เฮ้ย มันผิดได้ไง ผิด พ.ร.บ. ขนส่งข้อไหน ถ้าคุณเขียนใบสั่งผิดมาตราผมจะเอาไปฟ้องศาล พ่อข้าพเจ้าตัดบท กล่าวว่าเมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าผิดก็ต้องยอมรับผิด จะตะแบงเอาแต่ใจไม่ได้ ใบสั่งถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือลวกๆ เหมือนว่าไม่อยากให้อ่านออก ก่อนจะส่งให้พลเมืองผู้กระทำอาชญากรรมบนท้องถนนให้สำนึก

ผมปิดประตูรถอย่างขุ่นเคือง พ่อว่าเป็นเพราะกันชนเบี้ยวจากการชนหมานั่นแหละ เงินที่จ่ายไปก็ถือว่าทำทานให้หมา พลันอารมณ์บูดหายเป็นปลิดทิ้ง ผมหัวเราะออกมาได้ นั่นสินะ---ทำทานให้หมา! นาทีนั้นผมนึกถึงสุนัขข้างถนนที่เราเผลอชนเพราะมันวิ่งตัดหน้า อย่างน้อยมันก็ตายอย่างสมชาติตระกูลหมาข้างถนน คือวิ่งมาตัดหน้าท้ายมบาลก่อนจะพลาดท่าสังเวยชีวิต ทิ้งรอยบิดเบี้ยวไว้บนกันชนให้คนระลึกถึงด้วยความสงสาร ต่างจากสุนัขข้างถนนหิวโซบางตัว หรือหลายตัวที่คอยกรรโชกแว้งกัดเพื่อเศษอาหารเล็กๆ น้อยๆ จากมือประชาชนพลเมืองดีเสียภาษีตรงเวลาที่คอยให้ข้าวให้น้ำแก่มัน สุนัขพวกนั้นช่างไม่มีศักดิ์ศรีแม้เพียงเสี้ยวกระผีก และผมเชื่อว่าสุนัขพรรค์นั้นถึงจะตายไปก็คงไม่มีใครนึกสงสารมันแม้แต่คนเดียว

(ภาพประกอบ: ห้วงขณะพลเมืองผู้ก่ออาชญากรรมบนท้องถนนนับสิบรายต้องจ่ายค่าปรับให้ตำรวจผู้รักษากฎหมายยิ่งชีพ)

๙ มิ.ย. ๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น