หากฉันมีสิบเศียรอย่างทศกัณฐ์
คงเปี่ยมด้วยโมหันธ์ความห่วงหา
ดวงตาก็จะช้ำยี่สิบตา
ด้วยพะวงแต่ดวงหน้าน่ารักนั้น
แม้ว่ายี่สิบกรจะร้อนไหม้
ขอเพียงได้ตระกองกอดก็เต็มฝัน
ศีรษะแหลกเป็นร้อยเสี่ยงสมโทษทัณฑ์
แลกการจับมือกันประคองกร*
หากฉันมีฤทธิ์ร้ายอย่างราวณะ
จะเปิดฉากมหาศึกชิงสายสมร
จะพลีชีพผลาญชาติราษฎร
เป็นกองฟอนสมค่าสีดางาม
เพราะฉันเป็นตัวร้ายเหมือนราวณะ
เธอจึงมองว่ากักขฬะน่าเหยียดหยาม
ฉันคงไม่ตายด้วยศรราม
แต่จะตายเพราะเธอห้ามความห่วงใย
หากฉันมีสิบเศียรอย่างทศกัณฐ์
คงเปี่ยมด้วยโมหันธ์ความหวั่นไหว
เถิดเมื่อเธอถือครองกล่องดวงใจ
ขยี้เสียสิ้นไปจึ่งสิ้นกรรม
๓ มิ.ย. ๕๗
-----------------
*ในเรื่องรามเกียรติ์ (ฉบับรัชกาลที่ ๑) ทศกัณฐ์แตะต้องนางสีดาไม่ได้เนื่องจากบารมีของนางสีดาซึ่งเป็นพระลักษมีแบ่งภาคมาเกิด ดังกลอนว่า "เดชะบารมีโฉมฉาย ให้บันดาลร้อนกายยักษา สิ้นแรงที่จะไปในเมฆา ก็ลงมายังพื้นสุธาธาร" และ "เดชะด้วยโพธิสมภาร พระมารดาโลกดวงสมร พญายักษ์เข้าใกล้บังอร ให้ร้อนฤทัยดังไฟกัลป์"
ส่วนในรามายณะของอินเดีย ราวณะแตะต้องสีดาไม่ได้เนื่องจากถูกสาปไว้ว่าหากขืนใจหญิงสาวโดยที่นางไม่ยินยอม ศีรษะทั้งสิบจะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ
แต่อันที่จริงอาการ "ศีรษะแตกเป็นเสี่ยงๆ" ก็มีปรากฏในรามเกียรติ์เช่นกัน ในเรื่องกล่าวว่าเป็นเพราะบารมีของพระนารายณ์ ดังกลอนว่า "สิบเศียรเพียงแตกทำลาย ด้วยเดชะพระนารายณ์รังสรรค์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น