เจ้าหนูได้ยินเรื่องของตัวกินฝันจากเพื่อน
ว่ากันว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่กินความฝันของมนุษย์ได้
เมื่อเจ้าหนูไปถามแม่ก็ได้รับคำตอบว่าอีกไม่นานเขาจะมีตัวกินฝันเป็นของตัวเอง เจ้าหนูไม่รู้ว่าอีกไม่นานนี่นานแค่ไหน เขาต้องรอคอยไปถึงเมื่อไหร่
เท่าที่เขารู้คือยังไม่มีเด็กคนไหนเป็นเจ้าของตัวกินฝันเลยแม้แต่คนเดียว
หากเขามีตัวกินฝันอยู่ในครอบครองเป็นคนแรกคงจะเท่ไม่หยอก
เจ้าหนูจึงอ้อนแม่หลายต่อหลายครั้งว่าอยากได้ตัวกินฝันไว้ดูเล่น
และเอาไว้อวดเพื่อน ๆ ด้วย
แม่จึงตั้งเงื่อนไขกับเจ้าหนูว่าจะต้องทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่าง
เจ้าหนูรับปากโดยดี แม่จึงส่งเขาเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด
กำชับให้เจ้าหนูทำคะแนนให้ดีที่สุด
เพื่อที่จบออกมาจะได้ทำอาชีพที่มั่นคงที่สุด เจ้าหนูทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่าง
ในที่สุดเจ้าหนูก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอาชีพการงานมั่นคงที่สุด
แล้วงานที่มั่นคงที่สุดก็บีบบังคับเจ้าหนูให้กรำงานหนัก จนวันหนึ่งเขารู้สึกว่า
เวลาทำงานมีไม่พอ หากคนเราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการนอนและการฝันได้ก็คงจะดี
ทันใดนั้นเจ้าตัวกินฝันก็ปรากฎร่าง เขาดีใจมากที่ได้พบตัวกินฝันเสียที
ตัวกินฝันเสนอว่าจะกินความง่วงของเจ้าหนูไปพร้อมกับความฝัน
เพื่อให้เขามีเวลาทำงานเต็มที่ เจ้าหนูในวัยผู้ใหญ่ตอบรับทันที
จากวันนั้นเจ้าหนูก็มีตัวกินฝันเป็นของตัวเอง
ตัวกินฝันได้กินความง่วงและความฝันของเขาไปจนหมดสิ้น
เพื่อที่ว่าเขาจะได้มีเวลาก้มหน้าก้มตาทำงาน ทำงาน และทำงาน
โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับความฝันอีกต่อไป
เขาเห็นเพื่อนบางคนไม่มีตัวกินฝันเป็นของตัวเอง
ทุกวันนี้เพื่อนที่ยังคงมีความฝันต่างมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
เหตุเพราะต้องใช้จ่ายเวลามากมายเพื่อให้ความฝันนั้นยังคงดำรงอยู่
เจ้าหนูในวัยผู้ใหญ่มีลูกหนึ่งคน เขาไม่อยากให้ลูกลำบากเพราะไม่มีตัวกินฝัน
จึงจัดแจงส่งเขาเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด
กำชับให้ลูกของเขาทำคะแนนให้ดีที่สุด
เพื่อที่จบออกมาจะได้ทำอาชีพที่มั่นคงที่สุด
ลูกของเขาจะได้มีตัวกินฝันเป็นของตัวเอง
และไม่ต้องเสียเวลาไปกับความฝันไร้สาระแม้แต่วินาทีเดียว
๒๑ มกราคม ๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น