วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เสือดำและเพชรพระอุมา


เห็นข่าวการยิงเสือดำ นอกจากความโกรธแค้นแทนสัตว์ป่าอย่างที่สามัญสำนึกของมนุษย์จะพึงมีแล้ว ใจผมก็ยังนึกกระหวัดไปถึงฉากแรกในนวนิยายระดับขึ้นหิ้งของไทยอย่าง "เพชรพระอุมา" ซึ่งเป็นการเปิดตัวตัวละครเอกอย่าง รพินทร์ ไพรวัลย์ ได้อย่างตราตรึงใจสมชื่อชั้นนักเขียนชั้นครูอย่างพนมเทียน

ในวิชาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ คำหนึ่งที่ผมมักจะยกมาพูดกับเด็กเสมอคือคำพูดคลาสสิกของปาป้าเฮมิงเวย์ที่ว่า Show the Readers everything, Tell them nothing. ซึ่งใช้ได้ทั้งกับการเล่าเรื่องและการสร้างตัวละคร อย่าเขียนว่าผู้ถูกสัมภาษณ์เป็นคนขยันและอดทน แต่ควรเขียนถึงกิจวัตรที่สะท้อนความขยันและอดทนของเขา

ทีนี้ลองมาดูว่าพนมเทียนเปิดตัวรพินทร์ ไพรวัลย์ อย่างไรบ้าง

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อคนงานในสถานีกักสัตว์ประมาทเลินเล่อ ทำให้เสือดำหลุดจากกรงและทำร้ายคนในละแวกนั้นด้วยความตื่นกลัว ส่วนคนงานที่หนีพ้นบ้างก็ใช้ปืนยิงส่ง ๆ บ้างก็หนีเข้าตึก มีก็แต่รพินทร์ ไพรวัลย์ที่อยู่ในสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและมีสติที่สุด

...............................................

"...ผู้จัดการก็วิ่งหน้าเริดมาหาเขา ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ในที่โล่งบริเวณสถานีกักสัตว์ใกล้กับรถที่จอดอยู่..."

...............................................

ในที่สุดผู้อำนวยการซึ่งเป็นผู้จ้างวานการขนย้ายสัตว์ป่าก็ตัดสินใจให้รพินทร์ปลิดชีวิตเสือดำเคราะห์ร้ายตัวนั้นเสียก่อนจะมีใครตาย แม้รพินทร์ไม่อยากฆ่าแต่ด้วยความจำเป็นจึงต้องทำ แต่การฆ่าของเขานั้นไม่ใช่การระดมยิงไรเฟิลจากระยะไกล แต่เป็นการยิงอย่าง "เยนเทิลแมน" โดยใช้กระสุนเพียงนัดเดียว ถ้าพลาดก็เท่ากับตาย เป็นการเดิมพันการฆ่าอีกชีวิตหนึ่งด้วยชีวิตตัวเอง

...............................................

"...ว่าแล้วเขาก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋าย่ามของเสื้อล่าสัตว์ที่สวมอยู่ หยิบลูกซิลเวอร์ทิปออกมา กระชากลูกเลื่อนออก ยัดลูกปืนเข้าไปในรังเพลิงนัดเดียว กระแทกลูกเลื่อนปิดแล้วเดินดุ่ม ๆ ตามรอยของเจ้าดำ ซึ่งเห็นมันเผ่นหายไปทางกรงสัตว์ที่ขังไว้เก่า ๆ ด้านซ้ายของบริเวณ..."

...............................................

นอกจากจะใช้กระสุนนัดเดียวแล้ว รพินทร์ยังให้โอกาสเจ้าเสือดำต่อสู้ป้องกันตัวเอง เป็นการให้เกียรติในฐานะคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกัน โดยการรอจังหวะให้เสือตัวนั้นกระโจนเข้ามาแล้วยิงสวน

...............................................

"...เขาตวัดไรเฟิลขึ้นอย่างใจเย็น ตาจับอยู่ที่เป้าหมายอันมีระยะห่างประมาณไม่เกิน 10 เมตร โดยมีกรงนกเงือกกั้นกลาง ไอ้ดำเผ่นพรวดพราดขึ้นโดยเร็ว กระโจนไต่ตะกุยตะกายขึ้นไปบนต้นฉำฉา พอถึงคาคบ ก็หมอบทำตัวหูลู่ อ้าปากแสยะเขี้ยวมาทางเขา พร้อมด้วยดวงตาอันลุกจ้าดุร้าย
และพริบตานั้นเอง มันก็เผ่นพรวดสยายเล็บพุ่งลงมาใส่อย่างดุเดือด โดยข้ามหลังกรงนกเงือกลงมา
30-06 แผดระเบิดกึกก้องไปทั่ว
เป็นการยิงสวนในระยะเผาขน!
ร่างของเสือดำขนาดใหญ่ ปะทะร่างของจอมพรานโดยแรง เขาล้มกระแทกลงไปเบื้องหลัง ปืนหลุดกระเด็นจากมือ ส่วนเสือร้ายม้วนตัวสั่นริก ๆ อยู่กับที่ตรงนั้น มีแต่ส่วนหางยาวเท่านั้นที่แกว่งกวาดไปมาอยู่สองสามครั้ง แล้วก็สงบนิ่ง
ผู้จัดการของสถานที่ และคนงานทั้งหลายพากันวิ่งพรูเข้ามา เป็นเวลาเดียวกับที่รพินทร์ลุกขึ้นยืนช้า ๆ เดินมาโคลงศีรษะอย่างสุดเสียดายอยู่ที่ซากของไอ้ดำร้ายกาจตัวนั้น
กระสุน 30-60 เจาะแสกหน้าของมันทะลุเลยออกต่ำกว่าต้นคอเล็กน้อย!"

...............................................

ฉากการยิงเสือดำของรพินทร์ ไพรวัลย์ จึงเป็นหนึ่งในฉากเปิดตัวตัวละครที่ 'คลาสสิก' น่าประทับใจฉากหนึ่ง เพราะมันสามารถอธิบายลักษณะนิสัยของตัวละครทำนองว่า กล้าหาญ มั่นใจตัวเอง กล้าได้กล้าเสีย คุ้นเคยชำนาญพงไพรเป็นอย่างดี กล้าเดิมพันด้วยชีวิตตัวเอง ให้เกียรติสัตว์ป่าที่ตนล่า เป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจนักกีฬา ฯลฯ ได้โดยไม่ต้องใช้คำพวกนี้ให้รุงรังน่าเบื่อ

(แต่จะด้วยความที่กลัวคนอ่านบางกลุ่ม "ไม่เก็ต" หรืออย่างไรไม่ทราบ พนมเทียนก็ให้ตัวละครอีกตัวแอบอธิบายเฉลยการกระทำไว้ในย่อหน้าต่อมาอีกนิดหน่อย อาจจะเพื่อให้คนอ่านที่พรรษายังไม่แข็งกล้าได้เข้าใจความหมายของฉากเสี่ยงตายนั้น)

...............................................

"...ทีแรกผมนึกว่าเขาจะยิงผ่านลูกกรงตาข่ายของนกเงือกเข้าไปเสียอีก แต่เขากลับรอจังหวะให้มันพุ่งเข้าใส่และยิงในขณะนั้น ผมก็อยากจะเชื่อตามคุณอำพลว่า ในข้อที่รับรองว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษและนักกีฬาคนหนึ่ง เพราะแม้กระทั่งสัตว์เขาก็ยังให้โอกาสกับมัน ถ้ามือเขาไม่ดีจริง เมื่อกี้นี้เขาอาจถึงแก่ชีวิต มันเป็นการแลกกันอย่างยุติธรรมดีเหลือเกิน..."

...............................................

เขียนมาถึงตรงนี้ก็นึกถึงท่านประธานบริษัทคนนั้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าฉากการล่าเสือดำของท่านจะ "สุภาพบุรุษ" "นักกีฬา" "แลกกันอย่างยุติธรรม" อย่างรพินทร์ ไพรวัลย์ หรือเป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่เล็งยิงสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ด้วยปืนไรเฟิลจากระยะพ้นอันตรายเพียงเพื่อสนองตัณหาบ้าบอของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น